199. How-To Book To Fight GMO Corporations
Look
out Monsanto: The Global Food Movement Is Rising
The
book Harvesting Justice isn’t just a look at the world’s most exciting food
justice groups—it’s also a knockout organizing tool.
By Daniel Moss
มอนซานโต จงระวัง: การเคลื่อนไหวอาหารโลกกำลังเอ่อขึ้น
หนังสือ “เก็บเกี่ยวความเป็นธรรม”
ไม่ใช่แค่ดูกลุ่มอาหารเป็นธรรมที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก—มันเป็นเครื่องมือจัดกระบวนด้วย
โดย แดเนียล มอสส์
A group of Rarámuri Indians from
Bocoyna Municipality, who marched into the governor’s palace in 2008 to demand
that genetically modified corn not contaminate their native seeds. (Photo by
David Lauer)
กลุ่มชาวอินเดียน
รารามูริ จาก เทศบาลโบคอยยา, ผู้เดินขบวนไปจวนผู้ว่าในปี 2008 เพื่อเรียกร้องให้ ข้าวโพด จีเอ็ม
ไม่ให้ปนเปื้อนเมล็ดท้องถิ่นดั้งเดิมของพวกเขา.
Chewing on a mouthful of locally
grown lettuce, I wondered if the claims I’d heard about the global food-justice
movement were true. Was there a line to follow, however crooked, between my
purchase of these greens, land reform in Brazil and opposition
to genetically modified seeds in California. Or was it all just empty
calories?
ในระหว่างเคี้ยวผักกาดหอมที่ปลูกในท้องที่เต็มปาก,
ผมสงสัยส่า ข้ออ้างที่ผมได้ยินเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวอาหารเป็นธรรมโลก
จะเป็นเรื่องจริงไหม.
มีเส้นทางให้เดินตามไหม, แม้ว่าจะบิดเบี้ยว, ระหว่างการซื้อผักของฉัน,
การปฏิรูปที่ดินในบราซิล และ การต่อต้านเมล็ด จีเอ็ม ในแคลิฟอร์เนีย. หรือมันเป็นเพียงแคลอรีกลวง?
As a somewhat conscientious consumer
and occasional Taco Bell boycotter, I’ve hoped that the movement was real. But
it hasn't always been easy to perceive the connection between marching for
improved farmworker rights, signing a petition against factory feedlots, and
cooking up beets from a CSA (that is, community supported agriculture, which
usually comes in the form a box of assorted veggies delivered to people who
contribute to a local farm’s financial well-being).
ในฐานะที่เป็นผู้บริโภคที่ค่อนข้างมีจิตสำนึก
และ นักคว่ำบาตรทาโกเบล เป็นครั้งคราว, ผมหวังว่า
การเคลื่อนไหวเป็นเรื่องจริง.
แต่มันไม่ง่ายเสมอไปที่จะมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างการเดินขบวนเพื่อปรับปรุงสิทธิของคนงานฟาร์ม,
การเซ็นชื่อคำร้องต่อต้านโรงงานเลี้ยงสัตว์, และ ทำอาหารจากหัวบีทจาก CSA (นั่นคือ, เกษตรสนับสนุนโดยชุมชน, ที่มีการจัดส่งกล่องผักหลากชนิด
ถึงผู้มีอุปการคุณต่อความอยู่ดีมีสุขด้านการเงินของฟาร์มท้องถิ่น).
Those connections form a tight weave
in the new book, Harvesting
Justice: Transforming Food, Land, and Agriculture in the Americas.
Using “food sovereignty” as the secret sauce, the book sautés the individual
ingredients of sister movements into a coherent, flavorful whole.
สายใยเชื่อมโยงเหล่านั้น
สานแน่นเป็นหนังสือใหม่, “เก็บเกี่ยวความเป็นธรรม: พลิกโฉมอาหาร,
ผืนดิน, และเกษตรกรรมในอเมริกา”.
ด้วยการใช้ “อธิปไตยทางอาหาร” เป็นซอสลึกลับ, หนังสือ
ได้ผัดส่วนประกอบของการขับเคลื่อนพี่น้อง กลายเป็นจานใหม่ที่เป็นเนื้อเดียวกัน
รสชาดอร่อย กลมกล่อมนักแล.
The book was created for the U.S. Food Sovereignty Alliance—a
network of organizations allied with La
Via Campesina, which advocates for culturally appropriate (think tortillas
in Mexico instead of bread), ecologically sound (no GMOs), and small-farmer
friendly food systems.
หนังสือนี้
ถูกสรรค์สร้างขึ้น สำหรับ พันธมิตรอธิปไตยอาหารสหรัฐฯ—เครือข่ายองค์กรที่เป็นพันธมิตรกับ
ลา เวีย คัมเปซินา, ซึ่งทำการรณรงค์ส่งเสริมระบบอาหารที่เหมาะสมทางวัฒนธรรม
(ให้คิดถึง ทอร์ทิยา ในเม็กซิโก แทน ขนมปัง), เข้าท่าเชิงนิเวศ (ไม่เอา จีเอ็มโอ),
และ เป็นมิตรต่อชาวไร่นารายย่อย.
The book’s authors, Tory Field and
Beverly Bell, do a lot more with food than just write about it. Field is a
farmer who co-manages the Next Barn Over Farm, a CSA program in western
Massachusetts. Bell has worked for decades with small farmer organizations in
Haiti, including those who set
fire to agricultural aid after the 2010 earthquake. The farmers didn't see
the donated seeds as aid, but as a Monsanto “trojan horse” undermining their
control over their own food.
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้,
ทอรี ฟิลด์ และ เบเวอรี เบล, ทำงานกับอาหารมากกว่าแค่เขียน. ฟิลด์ เป็นเกษตรกรผู้ร่วมจัดการ Next Barn Over Farm (ยุ้งฉาง/โรงนาถัดไป แทน
ฟาร์ม), เป็น โปรแกม CSA ในรัฐแมสซาชูเซทส์ ตะวันตก. เบลได้ทำงานหลายทศวรรษกับองค์กรเกษตรกรรายย่อยในไฮติ,
รวมทั้งพวกที่จุดไปเผา ความช่วยเหลือทางเกษตร หลังจากแผ่นดินไหวในปี 2010.
เกษตรกรไม่เห็นว่าเมล็ดที่บริจาคให้เป็นการช่วยเหลือ, แต่เป็น “ม้าศึกลวง”
มอนซานโต เพื่อกัดเซาะการควบคุมอาหารของพวกเขาเหนืออาหารของพวกเขาเอง.
Both authors are also members of Other Worlds, an organization
that educates the public about citizen movements and builds community
alternatives to corporate globalization. Introducing us to farmers speaking in
their own voices, they describe how fighting the dominance of agribusiness and
relocalizing the food system are indeed two sides of the same coin.
ผู้เขียนทั้งสอง
เป็นสมาชิกของ “โลกอื่นๆ”,
องค์กรที่ให้การศึกษาแก่สาธารณะเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวพลเมือง และ สร้างชุมชน
เป็นทางเลือกแทน บรรษัทโลกาภิวัตน์.
ด้วยการแนะนำพวกเราให้รู้จักกับเกษตรกรที่พูดด้วยเสียงของพวกเขาเอง,
พวกเขาบรรยายว่า การต่อสู้การครอบงำของเกษตรพาณิชย์ และ
การทำให้ระบบอาหารกลับมาหยั่งรากในท้องถิ่นอีกครั้ง
เป็นสองด้านของเหรียญเดียวกันอย่างไร.
The book merges five years of field
research and interviews, and describes more than 100 case studies of advocacy
campaigns and alternative food systems in the United States and around the
world. The authors interview New Mexican farmer and teacher Miguel
Santistevan, who insists that “We don’t like the way the food system treats
the earth and its negative health effects on the people, [and] we are working
to actualize an alternative.”
หนังสือได้รวบยอดการทำวิจัยภาคสนามและการสัมภาษณ์
5
ปี เข้าด้วยกัน, และบรรยายกว่า 100
กรณีศึกษาของการรณรงค์ และ ระบบอาหารทางเลือกในสหรัฐฯ และ ทั่วโลก. ผู้เขียนสัมภาษณ์ชาวนาในเม็กซิโก และ ครู มิเกล
ซานติสเตวาน, ผู้ยืนกรานว่า “พวกเราไม่ชอบวิธีที่ระบบอาหารกระทำต่อแผ่นดิน และ
ผลกระทบเชิงลบของมันต่อประชาชน, และ
พวกเรากำลังทำงานเพื่อทำให้ทางเลือกเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมได้”.
They introduce us to Rosnel
Jean-Baptiste of Heads Together Small Peasant Farmers of Haiti (Tèt Kole Ti
Peyizan Ayisyen), who says, “It’s not houses that are going to rebuild Haiti,
it’s investing in the agriculture sector.”
พวกเขาได้แนะนำให้เรารู้จักกับ
Rosnel Jean-Baptiste
ของ “สุมหัวกันชาวนารายย่อยแห่งไฮติ”, ผู้กล่าวว่า,
“มันไม่ใช่บ้านเรือนที่จะสร้างไฮติขึ้นใหม่, มันเป็นการลงทุนในภาคเกษตร”.
And they encourage consumer action
through the words of Ben Burkett, president of the National Family Farm
Coaltion. “No matter what us farmers plant, the consumer’s got to change the
system,” Burkett says. “As long as they don’t complain, there’s no need even
talking about it. The marketplace dictates.”
และพวกเขาก็ชักจูงให้เกิดปฏิบัติการผู้บริโภคด้วยคำพูดของ
Ben Burkett, ประธานของ
เครือข่ายครอบครัวฟาร์มแห่งชาติ.
“ไม่ว่าพวกเราชาวนาจะปลูกอะไร, ผู้บริโภคจะต้องเปลี่ยนระบบ”, เบอร์เก็ตต์
กล่าว. “ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ร้องทุกข์, ก็ไม่มีความจำเป็นแม้แต่จะพูดถึงมัน. ตลาดเป็นผู้สั่งการ”.
Designed
for use as an organizing tool /
ออกแบบเพื่อให้เป็นเครื่องมือการจัดกระบวน
Accompanying the book is a
curriculum of teaching exercises called "Sowing Seeds," intended for
use in community and academic settings. The curriculum is dizzyingly
comprehensive, a kind of “best of” in food systems education culled from sister
organizations.
สิ่งที่มาพร้อมกับหนังสือ
เป็นหลักสูตรแบบฝึกหัดการสอน เรียกว่า “หว่านเมล็ด”,
ที่ตั้งใจให้ใช้ในชุมชนและในวงวิชาการ.
หลักสูตรครอบคลุมกว้างขวางและละเอียด, มีการศึกษาระบบอาหาร ชนิดที่
“ดีที่สุด” คัดเลือกจากองค์กรพี่น้องทั้งหลาย.
Have you ever wondered how many tons
of tomatoes a picker needs to pick each day to earn minimum wage, or what the
salary of David Novak—the CEO of the company that owns Taco Bell—would add up
to in tons of tomatoes at the same rate? It’s all in here. Consumer, producer,
and retailer perspectives are all explored through engaging exercises.
Suggested workshop formats may come in handy if you are an educator or
organizer.
คุณเคยสงสัยไหมว่า
คนเก็บมะเขือเทศคนหนึ่ง จะต้องเก็บมะเขือเทศสักกี่ตันในหนึ่งวัน
เพื่อให้ได้ค่าแรงขั้นต่ำ, หรือ เงินเดือนของ เดวิด โนวาค—ซีอีโอ
ของบริษัทที่เป็นเจ้าของ ทาโกเบล—เมื่อรวมกันแล้ว
คิดเป็นมะเขือเทศกี่ตันในอัตราเดียวกัน?
ทั้งหมดอยู่ในหนังสือนี้.
มุมมองของ ผู้บริโภค, ผู้ผลิต, และ ผู้ขายปลีก ล้วนได้รับการสำรวจด้วยแบบฝึกหัดแบบมีส่วนร่วม. รูปแบบการประชุมเชิงปฏิบัติการที่ได้แนะนำมา
อาจถูกใจหากคุณเป็นนักการศึกษา หรือ นักจัดกระบวนองค์กร.
You may want to nudge your local
bookseller to carry Harvesting Justice.
I'm guessing they won't be sorry. It’s not only highly readable but may
catalyze actions such as getting local food into school lunches. The stunning
photos serve up inspiration to get off your duff and transform the local food
system.
คุณอาจต้องการแวะเข้าร้านหนังสือใกล้เคียง
เพื่อทำการ “เก็บเกี่ยวความเป็นธรรม”.
ผมเดาว่า จะไม่เสียใจ.
มันไม่เพียงแต่อ่านง่าย แต่อาจกระตุ้นปฏิบัติการ เช่น ทำให้อาหารท้องถิ่น
เข้าสู่ มื้อเที่ยงในโรงเรียน.
ภาพถ่ายน่าทึ่ง เป็นแรงบันดาลใจให้คุณลุกขึ้น และ พลิกโฉมระบบอาหารท้องถิ่น.
Because it provides that kind of
inspiration, this is the kind of book that your local food co-op, farmer’s
market, or anti-hunger organization might consider using as a study guide. It
can help connect the dots between community groups doing related work and break
up any sense of going it alone. The appendix fills nearly fifteen pages,
introducing us to groups like the Food
Chain Workers Alliance, First Nations
Native Agriculture and Food Systems Initiative, and the Honduran Garifuna organization.
While these organizations are scattered around the planet, they form the
foundation of a localized, alternative food system.
เพราะมันให้แรงบันดาลใจ,
จึงเป็นหนังสือที่ร้านสหกรณ์อาหารท้องที่ของคุณ, ตลาดนัดชาวนา, หรือ
องค์กรต่อต้านความหิวโหย อาจพิจารณาใช้เป็นแนวทางการศึกษา. มันสามารถช่วยเชื่อมจุดต่างๆ
ระหว่างกลุ่มชุมชนที่ทำงานเกี่ยวเนื่องกัน และ ทลายความรู้สึกว่าทำงานอยู่โดดเดี่ยว. ภาคผนวกเติมเต็ม 15 หน้า, แนะนำให้เรารู้จักกับกลุ่ม เช่น พันธมิตรคนงานห่วงโซ่อาหาร,
การริเริ่มเกษตรและระบบอาหารดั้งเดิม, และ Honduran Garifuna organization. ในขณะที่องค์กรเหล่านี้ กระจัดกระจายอยู่ทั่วพิภพ,
พวกเขาก็เป็นรากฐานของระบบอาหารทางเลือก ที่หยั่งรากในท้องถิ่น.
Reading about how people transform
the way they farm and eat makes you want to reach for a big soup pot, cut up
some onions, and cook up your own plans with your neighbors. Harvesting Justice
gives you more than the recommended dose of civic engagement.
หลังจากอ่านเรื่องเกี่ยวกับการที่ประชาชนพลิกโฉมวิธีการทำเกษตรและการกิน
ทำให้คุณอยากยื่นมือไปยังหม้อซุปใบใหญ่, หั่นหัวหอม, และทำกับข้าวร่วมกับเพื่อนบ้าน. เก็บเกี่ยวความเป็นธรรม ให้คุณมากกว่า ปริมาณการมีส่วนร่วมพลเรือน
ที่แนะนำ.
This article was written for YES! Magazine, a national, nonprofit
media organization that fuses powerful ideas with practical actions.
This work is licensed under a Creative Commons License
Daniel Moss was a member of the
People's Water Forum's media team covering the 5th World Water Forum.
He is co-coordinator of Our
Water Commons and lives in Oaxaca, Mexico with his family.
แดเนียล
มอสส เป็นสมาชิกของทีมทำสื่อของ เวทีน้ำของประชาชน ที่บันทึก
การประชุมน้ำโลกครั้งที่ 5. เขาเป็นผู้ประสานงานร่วม ของ น้ำ—สมบัติร่วมของเรา
และ อาศัยอยู่ใน Oaxaca, Mexico
กับครอบครัวของเขา.
Published on Friday, April 12, 2013
by YES!
Magazine
While I agree with the sentiments of
the previous comments, I have not become so apathetic to the situation that I
have given up hope completely. In my community, we have some wonderful farmers,
chefs, bakers and merchants that share the ideology. I don't expect to change
the world but I can choose to spend my money wisely and do what's best for my
family. None of us can expect the corporate system that rules us to look out
for our best interest; we have to take care of ourselves and each other.
Apathy
is stock and trade at Common Dreams. Excessive pessimism and paranoia too.
However, it's greatest value is toughening up people or breaking them. The
insentient pounding repetitious blather is timeless prose too.
I went back to the land in 1976 and
fought for the organic movement all my life. I failed totally. This article is
more book promotion than reality. While I applaud the effort, it is a lifelong
valiant struggle sure to never succeed. Why? Because people like to eat shit,
especially when hungry and broke. I started organics out of fear of pesticides.
Now, 40 years later, we can add GM and nanoparticles. Food is more dangerous
than ever. If that is not failure, what is? I spent my whole life fighting
nuclear power and processed foods. You can no more stop what is going to happen
than a gnat can change earth's orbit. My message is that progressives are as
delusional as regressives. You'll have better luck just getting on with your
life. The larger than life meaning you search for lies in the people around
you. Not in something you can do nothing about. The liberal era of civil rights
and Nelson Mandella is an aberration of times of plenty. Times of plenty are
gone now, for most of us. The big world oil shock will be here in a couple of
years. Get your family ready for that, not some crazy dreams.
I
agree with you, but not happily.
Ditto.
Me, too.
thanks
joe, i bet you're from mexico.
I'm
so sorry you feel you've failed...I suspect someone, somewhere was inspired by
your commitment. Meanwhile, I live in a town where every public school child
helps with an organic school garden, help cultivate and cook what they grow and
for many elementary school children, Kale rocks! The Edible Schoolyard (Google)
program spreads this inspiration world wide.
There
is a rash of happy happy feel good articles here lately. Sure enough, when I
follow the links to learn about the authors and organizations I find sales
pitches, mostly for books. Positive messages about all of the
"progress" that "we" are making sells books, raises funds,
and promotes the careers of the "good guys" who are "on our side."
McKibben says we can reverse global warming, and that
we can do that by merely cutting back on emissions and buying local and stuff
like that, that green entrepreneurs will lead the way, that appealing to those
in power to "do the right thing" will work.
Here we learn that munching the right lettuce and
occasionally boycotting Taco Bell are important parts of the struggle. We are
told that "the consumer’s got to change the system" and that
"the marketplace dictates,"and that efforts to change people's eating
habits will transform the world.
Why
am i so shocked when someone agrees with me and, better yet, offers their own
supportive insight? Thanx
Same
ol' same ol' = work within the system, not change the system itself.
Now
you are on to something useful!!! We have to change the SYSTEM. And the only
way to do that is at the community level by banding with your neighbors and
passing local law that makes a sustainable food system in your
county/borough/township legal. It may sound weird, but under current legal
doctrine where corporations have more rights than people, sustainable food
systems are actually illegal. Check out what we are doing here in Oregon with a
Food Bill of Rights BentonCCRC (dot) org. Read our ordinance, then wander on
over to CELDF (dot)org and see what over 150 other communities are doing to
change the law and stop all kinds of corporate harms.
This exercising our rights at the local level is a huge
amount of work, but it beats the heck out of marching around and getting
arrested pointlessly, signing petitions, or begging our representative to do
the right thing and represent the interests of the people.
When
i was young, i used to read a lot of self-help books. i even bought a book on
procrastination i never got around to reading. none of those books helped --
me, that is, the authors did just fine.
Trying
to live in some kind of safety bubble is impossible. However, we can all make
choices to reduce exposure to harmful and potentially harmful products. Also, I
very much mean products that we introduce in our bodies through our skin and lungs.
You're
right, so far gone, so far gone. So depressing but so true.
I was just wondering yesterday if any of the oligarchs ever
stumble upon common dreams and read the posts. It must be so amusing for them
to read the comments and the bickering and the arguments here knowing full well
there is absolutely nothing any of us can ever really do about any of it.
I'm not belittling the commentary here because it's an
important community for me. There are some really bright people here with deep
insights. Most people around me and in my life don't share most of the views of
the CD readers so it's a good resource.
Anyway, what types of things are you doing to get your
family ready for the "big world oil shock"? Also, I want to give you props for working
with the homeless population. That's cool.
Thank
you for being the pathetic quitter we all can count on. As quitting is the
favorite pastime here, I'll interject one more time the link to
Thank
you for being so kind. I live in the woods in a log cabin, i garden for food. I
am a survivalist minus the gun tottin' craziness. although i do hunt deer. I
know how to preserve deer meat if i have to. I have a lot of food stores. I
know not everyone can do this. but people should at least have family emergency
plans, for example, i buy extra noodles when i can. on a personal note, i am a
moonshiner as a hobby. I agree about the comments, they are usually far more
interesting than the articles. I have taken it upon myself to warn dreamers of
their folly. Naturally very few like this. There are trolls for nuclear power
and there are trolls for solar-wind. It frightens me that we can't even talk
about survival honestly enough to make progress. Thank you.
You
have been reading my mail, Shizel. Although I have taken the same high road for
the past 40 years I have concluded that being ethical and sustainable plus two
dollars buys a good cup of coffee (three dollars in high rent areas). How do we
turn the tide now that the banksters and Monsanto own most governments ?
"How
do we turn the tide now that the banksters and Monsanto own most governments
?" Answer: stop playing the governments game on corporate and banksters
turf. If the laws and the government is unjust, than we must confront unjust
law and legal doctrine by exercising our rights at the local level. It's been
done in over 150 communities so far, and a bunch more are on their heels. See
my comment above. Giving up is not an option and we can't stay in our tents and
cabins alone and make lasting change for our children and grandchildren.
i
never reach conclusions too hastily, but happily this one i figured out on top
of the earth instead of below it.
I say that it is time to fight fire
with fire. Monsanto sues farmers for patent infringement for using GMO seeds
that have blown onto their property. They have succeeded in many lawsuits.They
can afford to hire lawyers to be successful in court actions.
Yet
there are other lawyers who file class actions and suits for monetary damages
who receive contingency fees and are only paid if they are successful in court.
The Association of Trial Lawyers of America is their professional organization.
There
is a legal theory called "nuisance" which should be employed against
Monsanto and another called "trespass". When one owner or tenant on land conducts
dangerous activities on their property which affect the owner or tenant of
adjacent or nearby property and interferes with their free use of the land, the
offending landowner can be brought to court and restrained by court order from
continuing the "nuisance".Activities which cause smoke or noise have
been held to be nuisances.
When
something physical, like a fallen tree, crosses a boundary and causes damage on
the neighboring property, the owner of the property with the fallen tree can be
sued for monetary damages.
In
the case of Monsanto, their genetically modified seeds create plants without
nutrients and with toxic chemicals. These are a nuisance to nearby landowners.
They cause damage to healthy and organic crops. These invading seeds carry the
genetic signature of Monsanto and the trespass cannot be denied. Only the
danger and the nuisance needs to be proven.
These
law suits can be commenced in every county and in every state where Monsanto
owns land and grows GMO crops. Thousands of different lawyers can be recruited
to participate in the feeding frenzy upon the bones of Monsanto. I would
suggest Hawaii has an axe to grind against Monsanto since their papaya crop has
been totally polluted and decimated by GMO's.
Let the legal battles begin.
Gerry Gilligan
You
can't "out legal" Monsanto or the industrial agribusiness
corporations. And your "nuisance" laws won't work in states with ALEC
inspired Right to Farm Laws that were put in place years ago in most states to
protect the major agribusiness corporations.
Can't?
or won't bother? Giving up ? Think smarter. Giving up is another favorite
pastime here. Glad we can count on you to quit.
Excuse
me? Are you nuts? What don't you get about the fact that the law and all legal
doctrine is all designed for the likes of Monsanto? What don't you get about
corporate personhood and the commerce clause in our constitution? What don't
you get about the fact that the whole system is rigged for the profit of the
corporations and their government lackeys? This has been going on for 200 years
here in the U.S.
Farmers and communities have been fighting these monsters in
court for over 20 years becaue of the patenting of seed. My neighbor is a
farmer and one of the plaintiffs in OSGATA v Monsanto. I have other farmer
neighbors who have been fighting for survival in this industrial agribusiness
model for 40 years. Our whole community has spent years building a sustainable
food system. We have put our blood, sweat, and tears into supporting our local
family farmers and main street businesses. After all of our effort, one thing
we know is that to continue to keep doing the same things over and over again
and getting the same result, that we need to do something different.
We are not giving up; we are just getting started. We are
banding together and changing the laws locally. We are confronting the system
because it is unjust. We are working like hell, together, to defend our right
to grow food and defend our seed heritage. We are exercising our rights and
taking back our inalienable right to govern.
Fighting Monsanto in court under existing law and legal
doctrine is futile. It is long past the time of playing their game by their
rules. It is time that we play our own game called "We the People" by
our own rules and exercise our rights that we are told we have in this supposed
democracy. Let's actually test the theory that this government is of, by, and for
the people by exercising our right to govern and make some local laws - like a
food bill of rights.
I
think you make a good point.
If
an organic corn farmer is making a living growing organic crops they should be
protected from infringement from neighbors. The organic farmer probably has
contracts to fill at a high price. Now if that same farmer can prove his crop
is contaminated by a certain neighbor he should be able to sue for
loses.....possibly for three years. The problem arises when identifying where
the contamination came from. The farmer could potentially have 4 neighbors
planting GMO corn. How do you identify which crop contaminated the organic
crop?
I do like your line of thought. If this could be proved then
I believe those same neighbors would consider non-GMO alternatives rather than
risk contamination. It needs to start somewhere.
Doesn't
work that way. See OSGATA v Monsanto, now in federal court in DC on appeal.
You can't really complain too much
when the book is FREE to download and you haven't even read it yet.
Monsanto is quivering over some
'feel good' liberal book about about local food movements? Hardly. Does the
book even whisper as to some tactics suggested on bringing down capitalism?
I'm now going to "be the
change" and gnaw on some local lettuce.
Sounds wonderful in theory. In
practice, the bad guys have won and will continue to win until Mother Nature,
via global warming, destroys them (and unfortunately, the rest of us).
Monsanto (and the rest of the Big
Ag) makes MOST of its profits from the downstream production of meat and dairy
(and their consumption, worldwide). If people understand this simple FACT, that
would be a great start, and personally I think it's much better than
handwringing. I made a post yesterday about this, using numbers from Monsanto's
2012 Annual Report to its shareholders. Pleae
check it out.
Recently
I have
been citing Phil Rockstroh's facebook post which I like to think validates
and vindicates what I've been arguing here about boycotting certain things:
"Often,
I am asked variations of this question, when I advocate a boycott of voting in
this faux republic, "So what would you do, Phil?"
Act
as though the crumbling system has already collapsed...better yet, give the
empire a push towards the abyss. The mode of life extant under late capitalism
is a clear and present threat to the entire planet. Participate in the system
as little as possible and subvert it whenever possible. One example:
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น