วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

95. “ยังอยู่ดี กินดีไหม???” : อุตสาหกรรมย่อยสลายสุขภาพคน-นิเวศ เพื่อเม็ดเงิน


Stanford Scientists Shockingly Reckless on Health Risk And Organics
ความสะเพร่าที่น่าตระหนกของนักวิทยาศาสตร์สแตนฟอร์ด เรื่อง อาหารอินทรีย์ และความเสี่ยงต่อสุขภาพ
by Frances Moore Lappé
โดย ฟรานซิส มัวร์ เลปเป้
(ดรุณี ตันติวิรมานนท์ แปล)


I first heard about a new Stanford "study" downplaying the value of organics when this blog headline cried out from my inbox: "Expensive organic food isn't healthier and no safer than produce grown with pesticides, finds biggest study of its kind."
ฉันได้ยินเกี่ยวกับ “การศึกษา” ชิ้นใหม่ของสแตนฟอร์ด ที่ให้ร้ายคุณค่าของอาหารอินทรีย์ ครั้งแรก เมื่อพาดหัวบล็อก ตะโกนเสียงดังจาก กล่องรับอีเมล ของฉัน: “อาหารอินทรีย์ราคาแพง ไม่ได้มีคุณค่าต่อสุขภาพหรือปลอดภัยกว่าผลิตผลที่ปลูกด้วยยาฆ่าแมลง, การค้นพบที่ใหญ่โตที่สุดในบรรดาการศึกษาประเภทเดียวกัน”.

What?
อะไรนะ?

Does the actual study say this?
การศึกษานั้นพูดเช่นนี้หรือ?

No, but authors of the study -- "Are Organic Foods Safer or Healthier Than Conventional Alternatives? A Systematic Review" -- surely are responsible for its misinterpretation and more. Their study actually reports that ¨Consumption of organic foods may reduce exposure to pesticide residues and antibiotic-resistant bacteria."
เปล่า, แต่ผู้เขียนงานศึกษา--“อาหารอินทรีย์ปลอดภัยกว่า หรือดีต่อสุขภาพกว่า ทางเลือกกระแสหลัก?  บททบทวนอย่างเป็นระบบ”—แน่นอน เป็นผู้รับผิดชอบต่อการตีความผิดๆ.   การศึกษาของพวกเขา ที่แท้รายงานว่า “การบริโภคอาหารอินทรีย์ อาจลดโอกาสสัมผัสเศษยาฆ่าแมลง และแบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะ”.

The authors' tentative wording -- "may reduce" -- belies their own data: The report's opening statement says the tested organic produce carried a 30 percent lower risk of exposure to pesticide residues. And, the report itself also says that "detectable pesticide residues were found in 7% of organic produce samples...and 38% of conventional produce samples." Isn't that's a greater than 80% exposure reduction?
คำพูดหลวมๆ ของผู้เขียน—“อาจลด”—ทำให้เข้าใจผิดด้วยข้อมูลของพวกเขาเอง: คำแถลงเปิดของรายงานบอกว่า ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ที่ถูกทดสอบ มีความเสี่ยงต่อโอกาสการสัมผัส/ได้รับเศษยาฆ่าแมลงน้อยกว่า 30%.  และ, ตัวรายงานเองก็บอกว่า “พบเศษยาฆ่าแมลงใน 7% ของตัวอย่างผลิตภัณฑ์อินทรีย์...และ 38% ในตัวอย่างผลิตภัณฑ์กระแสหลัก”.   นั่นไม่ใช่ตัวชี้ว่า (การผลิตแบบอินทรีย์) ลดโอกาสสัมผัส (กับยาฆ่าแมลง) ได้มากกว่าถึง 80% หรือ?

In any case, the Stanford report's unorthodox measure "makes little practical or clinical sense," notes Charles Benbrook -- formerly Executive Director, Board on Agriculture of the National Academy of Sciences: What people "should be concerned about [is]... not just the number of [pesticide] residues they are exposed to" but the "health risk they face." Benbrook notes "a 94% reduction in health risk" from pesticides when eating organic foods.
ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม, การตรวจวัดที่ไม่ยึดถือหลักวิชาการของรายงานสแตนฟอร์ด “ให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์เชิงปฏิบัติ หรือพิสูจน์ผลต่อสุขภาพได้น้อยมาก,” ชาร์ลส เบนบรูค กล่าว—อดีตผู้อำนวยการบริหาร, กรรมการด้านเกษตร ของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ: สิ่งที่ประชาชน “ควรกังวล...ไม่ใช่เพียงที่ปริมาณเศษ (ยาฆ่าแมลง) ที่พวกเขาจะสัมผัส/ได้รับ” แต่เป็น “ความเสี่ยงต่อสุขภาพที่พวกเขาเผชิญ”.   เบนบรูค กล่าวว่า เมื่อกินอาหารอินทรีย์ ก็เป็น “การลดความเสี่ยงจากยาฆ่าแมลงแล้วถึง 94%”.

Assessing pesticide-driven health risks weighs the toxicity of the particular pesticide. For example the widely-used pesticide atrazine, banned in Europe, is known to be "a risk factor in endocrine disruption in wildlife and reproductive cancers in laboratory rodents and humans."
การประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพที่ยาฆ่าแมลงยัดเยียดให้ ต้องชั่งน้ำหนักความเป็นพิษของยาฆ่าแมลงชนิดนั้นๆ.  เช่น ยาฆ่าแมลงที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย อตราซีน, ที่ถูกห้ามใช้ในยุโรป, เป็นที่รู้กันว่า “เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดอาการต่อมไร้ท่อแตกในสัตว์ป่า และมะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์ในหนูทดลอง และในมนุษย์”.

"Very few studies" included by the Stanford researchers, notes Benbrook, "are designed or conducted in a way that could isolate the impact or contribution of a switch to organic food from the many other factors that influence a given individual's health." They "would be very expensive, and to date, none have been carried out in the U.S." [emphasis added].
เบนบรูค กล่าวว่า, “มีการศึกษาน้อยมาก” ที่นักวิจัยสแตนฟอร์ดอ้างถึงในการทบทวน, “ได้ถูกออกแบบ หรือใช้วิธีการเก็บข้อมูลที่สามารถแยกผลกระทบของการเปลี่ยนไปกินอาหารอินทรีย์ ออกจากปัจจัยอื่นๆ ที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพของคนๆ หนึ่ง”.   การวิจัยพวกนี้ “จะแพงมาก, และจนกระทั่งปัจจุบัน, ยังไม่มีใครทำเช่นนั้นได้ในสหรัฐฯ”.

In other words, simple prudence should have prevented these scientists from using "evidence" not designed to capture what they wanted to know.
พูดง่ายๆ, ความรอบคอบธรรมดาๆ ควรจะช่วยป้องกันนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ ไม่ให้ใช้ “หลักฐาน” ที่ไม่ได้ถูกออกแบบ เพื่อกลั่นกรอง ดักหาสิ่งที่พวกเขาต้องการรู้.

Moreover, buried in the Stanford study is this all-critical fact: It includes no long-term studies of people consuming organic compared to chemically produced food: The studies included ranged from just two days to two years. Yet, it is well established that chemical exposure often takes decades to show up, for example, in cancer or neurological disorders.
ยิ่งกว่านั้น, ข้อมูลที่ฝังอยู่ในการศึกษาสแตนฟอร์ด  ล้วนเป็นข้อเท็จจริงที่สำคัญยิ่ง: มันไม่มีงานศึกษาระยะยาวของคนที่กินอาหารอินทรีย์ เทียบกับ อาหารที่ผลิตด้วยสารเคมี: การศึกษาต่างๆ ใช้เวลาเพียงสองวัน ถึง สองปี.   ถึงกระนั้น, ก็เป็นที่ยอมรับกันดีแล้วว่า การสัมผัสกับสารเคมีมักใช้เวลาหลายสิบปีกว่าอาการจะแสดงออก, เช่น, เป็นมะเร็ง หรือ ระบบประสาทผิดปกติ.

Consider these studies not included: The New York Times notes three 2011 studies by scientists at Columbia University, the University of California, Berkeley, and Mount Sinai Hospital in Manhattan that studied pregnant women exposed to higher amounts of an organophosphate pesticide. Once their children reached elementary school they "had, on average, I.Q.'s several points lower than those of their peers."
คิดดู การศึกษาเหล่านี้ไม่ได้รวม:  นิวยอร์กไทมส์ ได้กล่าวถึง สามการศึกษาในปี 2011 โดยนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย, แคลิฟอร์เนีย-เบอกลีย์, โรงพยาบาล เมานท์ไซนาย ในแมนฮัตตัน ที่ทำการศึกษาหญิงมีครรภ์ที่ได้รับ/สัมผัสยาฆ่าแมลง ออร์แกโนฟอสเฟตในปริมาณสูง.   เมื่อลูกของพวกเธอเจริญวัยถึงขั้นประถมศึกษา พวกเด็ก “มีไอคิวเฉลี่ย ต่ำกว่าเพื่อนๆ มาก”.

Thus, it is reprehensible for the authors of this overview to even leave open to possible interpretation that their compilation of short-term studies can determine anything about the human-health impact of pesticides.
ดังนั้น, จึงน่าตำหนิผู้เขียนบททบทวนดังกล่าว ที่เปิดช่องโหว่ให้ตีความได้ว่า การเก็บข้อมูลจากการศึกษาระยะสั้น สามารถพิสูจน์อะไรก็ได้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาฆ่าแมลงต่อสุขภาพมนุษย์.

What also disturbs me is that neither in their journal article nor in media interviews do the Stanford authors suggest that concern about "safer and healthier" might extend beyond consumers to the people who grow our food. They have health concerns, too!
สิ่งที่ทำให้ฉันเคือง คือ ผู้เขียนสแตนฟอร์ด ละเลยทั้งในบทความในวารสาร หรือในการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ ที่ไม่ได้แม้แต่แนะถึง ความห่วงใยเกี่ยวกับ “ความปลอดภัยกว่า และมีสุขภาพที่ดีกว่า” ว่าอาจครอบคลุมเลยผู้บริโภคไปถึงคนที่ปลูกอาหารของเรา.  พวกเขาก็มีความห่วงใยต่อสุขภาพเหมือนกัน!

Many choose organic to decrease chemicals in food production because of the horrific consequences farm workers and farmers suffer from pesticide exposure. U.S. farming communities are shown to be afflicted with, for example, higher rates of: "leukemia, non-Hodgkin lymphoma, multiple myeloma, and soft tissue sarcoma" -- in addition to skin, lip, stomach, brain and prostate cancers," reports the National Cancer Institute. And, at a global level, "an estimated 3 million acute pesticide poisonings occur worldwide each year," reports the World Health Organization. Another health hazard of pesticides, not hinted at in the report, comes from water contamination by pesticides. They have made the water supply for 4.3 million Americans unsafe for drinking.
คนส่วนใหญ่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์อินทรีย์ เพื่อลดสารเคมีในการผลิตอาหาร เพราะรู้ผลพวงน่ากลัวที่ตกอยู่กับคนทำงานเกษตรและชาวนา ที่ต้องทนทรมานกับการสัมผัสกับยาฆ่าแมลง.   มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า ชุมชนเกษตรกรสหรัฐฯ เป็นโรค, เช่น, มีอัตราการป่วยสูงด้วย “โรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว, มะเร็งต่อมน้ำเหลือง, เนื้องอก และก้อนเนื้อมะเร็งในเนื้อเยื่ออ่อน”—รวมกับมะเร็ง ผิวหนัง, ริมฝีปาก, กระเพาะ, สมอง และต่อมลูกหมาก,” ดังรายงานจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ.   และในระดับโลก, “มีการประเมิน ผู้ป่วยจากพิษยาฆ่าแมลงอย่างรุนแรง 3 ล้านรายทั่วโลกในแต่ละปี,” ดังที่องค์การอนามัยโลกได้รายงานไว้.   ภัยสุขภาพจากยาฆ่าแมลงอีกเรื่อง, ที่ไม่ได้เกริ่นถึงในรายงาน, มาจากน้ำที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลง.   มันได้ทำให้แหล่งน้ำสำหรับชาวอเมริกัน 4.3 ล้านคน ไม่ปลอดภัยที่จะใช้ดื่ม.

Finally, are organic foods more nutritious?
สุดท้าย, อาหารอินทรีย์มีคุณค่ากว่าทางโภชนาการไหม?

In their report, Crystal Smith-Spangler, MD, and co-authors say only that "published literature lacks strong evidence that organic foods are significantly more nutritious than conventional foods." Yet, the most comprehensive meta-analysis comparing organic and non-organic, led by scientist Kirsten Brandt, a Scientist at the Human Nutrition Research Center at the UK's Newcastle University found organic fruits and vegetables, to have on "average 12% higher nutrient levels."
ในรายงานของพวกเขา, แพทย์หญิง คริสตัล สมิธ-แสปรงเลอร์, และคณะ เพียงแต่กล่าวว่า “บทความศึกษาวิจัย (ที่ทบทวน) ขาดหลักฐานชัดเจนว่า อาหารอินทรีย์ มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าอาหารกระแสหลักอย่างมีนัยสำคัญ”.   แต่, จากการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมกว้างขวางที่สุด เปรียบเทียบอาหารอินทรีย์ และไม่อินทรีย์, ที่นำโดยนักวิทยาศาสตร์ คริสเตน แบรนดท์, นักวิทยาศาสตร์ ที่ ศูนย์วิจัยโภชนาการมนุษย์ ที่มหาวิทยาลัย นิวแคสเติล ของสหราชอาณาจักร พบว่า ผลไม้และผักอินทรีย์ “มีระดับโภชนาการเฉลี่ยสูงกว่าถึง 12%”.

Bottom line for me? What we do know is that the rates of critical illnesses, many food-related --from allergies to Crohn's Disease -- are spiking and no one knows why. What we do know is that pesticide poisoning is real and lethal -- and not just for humans. In such a world is it not the height of irresponsibility to downplay the risks of exposure to known toxins?
ประโยคปิดท้ายของฉันหรือ?  สิ่งที่พวกเรารู้ คือ อัตราการป่วยขั้นวิกฤต, หลายๆ อย่างเกี่ยวข้องกับอาหาร—ตั้งแต่โรคภูมิแพ้ จนถึง โรคครอห์น—กำลังพุ่งสูงขึ้น และไม่มีใครรู้สาเหตุ.   สิ่งที่พวกเรารู้ คือ พิษจากยาฆ่าแมลงนั้นเป็นจริง และถึงตายได้—และไม่ใช่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อมนุษย์.   ในโลกเช่นนี้ มันไม่ใช่เป็นความไม่รับผิดชอบอย่างยิ่งหรือ ที่ปัดสวะ ความเสี่ยงของการสัมผัสสิ่งที่รู้กันดีว่า เป็นพิษ?

Rachel Carson would be crying. Or, I hope, shouting until -- finally -- we all listen. "Simple precaution! Is that not commonsense?"
เรเชล คาร์สัน คงจะกำลังร้องไห้.  หรือ, ฉันหวังว่า, กำลังตะโกนจนกระทั่ง—ในที่สุด—พวกเราทั้งหมดได้ยิน.  “เพียงแค่ระมัดระวัง!  นั่นไม่ใช่สามัญสำนึกหรือ?”

Frances Moore Lappé just released EcoMind: Changing the Way We Think to Create the World We Want (Nation Books) on the fortieth anniversary of her Diet for a Small Planet.
ฟรานซิส มัวร์ เลปเป้ เพิ่งวางจำหน่าย  “จิตนิเวศ: เปลี่ยนวิธีคิด เพื่อสร้างโลกที่เราต้องการ” (Nation Books) ในวาระครบปีที่ 40 ของหนังสือ/การรณรงค์ของเธอ “โภชนาการเพื่อพิภพใบน้อย”.
Published on Thursday, September 6, 2012 by Common Dreams

comments:
                                                                                                                                                      
The Universities are all being bought up by the One Percent. Complete control, censoring science and dictating fascist agendas on every front. Not to mention, deciding who thinks correctly, and who recieves passing grades, and employment.    Starting to think living in America is at your own risk.
2 / 
Tom Carberry • a day ago −
The study has about 12 authors. I wonder what percentage of their incomes derive from the pesticide industry?
18 / 
Sue Timm • 10 hours ago
California prop 37, on the ballot for November, will require labeling of GMOs. Monsanto and others are spending big bucks to defeat this.
There is an interesting article in the Sacramento Bee about organic food producers who are also fighting this proposition: http://bit.ly/Tsbo4v

Might the timing of the release of this study be part of the "scientific" data supporting the anti-labeling position?
5 / 
What I liked about the Stanford Study was their slippery use of statistics.
One of their little tricks was claiming that 7% of the organic samples had pesticide residue while 38% of the conventional produce had pesticide residue. So what is the problem?

Pesticide exposure is cumulative. If the FDA limit is 100 parts per million, you could say that an conventional apple with 90 parts per million of rat poison is equal to an organic apple with 10 parts per million of pesticide residue. Both apples would fall in to the research study metric of 7% positive and 38% positive for the cumulative study.

The reality is quite different as you multiply the effect of 10 parts per million on the 7 apples of 100 that have pesticide residue versus the 38 apples per 100 that have 90 parts per million contamination in each of the 38 apples.

Do the math, the difference between cumulative exposures of organic to conventional is not 7 % to 38% rather the organic apple lot of 100 has 70 parts per million in this example (10 x 7), while the conventional lot of 100 apples has (38 x 90) 3,420 parts per million of pesticide residue.

The above statistical example was not the analysis of a particular study that the Stanford research team used. The above example is used to show how easy it is to manipulate the headlines in a newspaper.

I for one will stick with Organic even if Organic catches some of the pesticide drift from the conventional orchards.

You would think there would be higher standards in academic journals who publish such misleading crap.
5 / 
1 * 
Mike_Strong • 10 hours ago
I don't understand the problem. It is just a matter of time before humans also develop a resistance to pesticides. Nature does it all the time. At first the pesticides kill off so many of the existing pests it looks like the chemicals got them all. Except for the very few who happen to be able to live anyway. After a while the surviving pests start expanding in population until they are just as plentiful as before. Only now they can live free from worry over that old pesticide!

So, see!!!! We humans have a bright and shiny future after we kill off most of us so that the pesticide-resistant humans can re-populate the planet. Better still, it will probably solve the population explosion problem for the see-able future. Win, win, win. (To paraphase that great sage, Gomer Pyle)

Other note. GMO crops are designed to manufacture pesticides as part of their makeup so you get the advantages of spraying without the spray. Weee! So far no one has come up with a way of washing off pesticides which are an integral part of the plants. The advantage being that consumers don't get short changed on pesticides by buying foods that might lose some of their poison potential by being washed.

It is all in your perspective.
4 / 
ca_ssandra • 13 hours ago −
Many comments have noted the serious conflicts of interest among the Stanford researchers.

Another point--California is going to vote on GMO labelling in November. They will create doubt toward natural farming methods wherever and whenever they can.
4 /
These authors should not be considered scientists by any means. AgBusiness shills, perhaps especially, because the risk of pesticides screwing up the development of kids in utero is large. One of the only known causative agents of autism is a pesticide, chlorpyrifos.
9 / 
raydelcamino • 21 hours ago • parent
Not surprising this research eminated from Robber Baron U. whose infamous denizens have included Ben Bernanke and Condoleeza Rice.
4 / 
Detokeville • 2 hours ago • parent
Your comment made me turn to wiki once more: Bernanke indeed a was a denizen of at Stanford, teaching there,

"Bernanke attended Harvard University, where he lived in Winthrop House with the future CEO of Goldman Sachs, Lloyd Blankfein...."
0 /
..
Frances, do you advocate the reclaiming of the land, and the destruction of the factories producing such chemicals?

Stanford is located in a very interesting place, no?

one of this planet's greatest agricultural valleys right next door...

an agricultural area recently, and entirely, saturated with long-lived radioactive particles from Japan...

an area slated to go under as seas rise...

they might be very interested in dumping any produce not 'organic'...

after all, it is much better to be 'not quite, but almost, organic' than to be 'toxic', or 'radioactive', or 'cancer-causing'...
5 / 
raydelcamino • 21 hours ago • parent
The Santa Clara Valley that you are referring to WAS a great agricultural valley until the "defense" industry moved in after WWII and it became Silicon Valley in the 1970s.
0 / 
GreenwichAvenue • 19 hours ago • parent
We need to be watching our own ability to make ourselves and our nation radioactive --

Global Warming will bring more earthquakes and more severe earthquakes due to the melting of the glaciers which shift pressure on the tectonic plates. Earthquakes generate new volcanic activity. We need to be shutting down all of the nuclear power plans across America.

Better to go out with a whimper than a bang --

Keep in mind that the government and citizens of Fukushima wanted to shut down their nuclear reactors 5 or 6 years before this tragedy.

One of the main reasons was that their scientists were reporting increasing seismic activity.
However, W Bush sent a team to Fukushima and when they left, the nuclear power plants were still operating, but the government had been changed. Even now, the people speak clearly that they want an end to nuclear power in Japan.
And clearly corrupt forces there are denying the voice of the people.

Also thanks to GE design, their nuclear power plants will take a solid year to shut down -- ours require 6 months -- but in neither case does that solve the problem of the WASTE.

GE designed the FUKU plants with radioactive roads at the TOP of the plants -- and explosions have blown the tops off of at least one reactor -- perhaps more -- and some of the rods floated out to seas. As has been made clear, even a few moments of exposure to those rods -- 1/2" wide and 12 feet long -- means death.

And, again, there is no solution to the WASTE.

Hi Common Dreams -- some paragraph spacing would be nice!

WAKE UP, AMERICA -- !!
0 / 
1 * 
Chris Herz • a day ago
Stanford is the home of the Hoover Institute, that bastion of American reaction.
4 / 
MrTuttle • 14 hours ago
How many Organic farmers give money to Stanford?
How much money does Dow and other chemical makers and other corporate interests that make billions off of Non-organic farming?
The Universities are not looking after people and the betterment of the planet they are like every other institution that once might have, they are now just corporate tools that put profit over people and the planet. Stanford doesn't care of people they care only of profit. Nature is perfect, man is polluted.
2 / 
Ted M • a day ago −
OK, let's get some perspective here.

A few months ago a team of researchers came out with a report on a study claiming that the incidence of death from prostate cancer is statistically no different for men who undergo a simple prostate cancer screening (PSA test) than those who don't. The result of their "study" was a recommendation that men not undergo the simple blood test on a regular basis (they had earlier recommended that women not have regular mammograms, but I digress).

So, this highly qualified team of doctors and scientists made a potentially life-altering recommendation based on a highly scientific study...except that there was a major flaw in their study. It turns out that some men in the control group (the ones not having regular PSA screening) were secretly having their PSA tested on a regular basis. I mean, it's only cancer, right? Let's all play Russian roulette with cancer!

So now we have this "study" which again seems to fly in the face of common sense. And of course we should all disregard millions of years of evolution because an eminent group of scientists combed the internet for data and came up with a report that the media then takes way out of context before any of it can be verified.

Oh, and much research is done in universities where the researchers depend on grant money to fund their research...and jobs. No wonder they slam these studies out!

Does anyone ever wonder why Americans are so confused and paranoid about what's healthy? Maybe it's the way all these "studies" are conducted and the way the media reports them as fact without doing a little fact-checking.

Someone is not doing their job. Actually lots of someones are not doing their jobs. And we're suffering for it.
3 / 
Detokeville • 2 hours ago • parent
Many science and health writers lost their jobs in cost cutting when publishing melted down .
Some of them have had to turn to working in PR since that sector is going up, compared to real journalism.
 Media gets prepackaged information from groups with agendas. And our bodies and brains are suffering for it.
0 / 
GreenwichAvenue • 19 hours ago • parent
One of the main things we need to notice is that 1 in 3 Americans now have cancer -- and ask WHY?

What's happened to our immune systems?

However, it has often been told -- over probably 15 years that I'm aware -- that males are probably better off without  prostate surgery.

In fact, that seems to be true of all cancer.

Rather than SLASH AND BURN MEDICINE IN AMERICA, why not try some more sensible means -- alternative means of fighting cancer? First with preventative health care -- second by changing our diets from dairy/animal eating -- and finally, but following other means of shrinking cancerous tumors?

Where alternative medicine does shrink tumors it is highly successful, but LESS successful when the patient has already received surgery.

Populations used to know something about health and nutrition -- plants which are not only our nutrition but our medicines/drugs -- we have all been made ignorant and stupid by "expert."

But, don't worry, BIG PHARMA will soon find that ignorance is "genetic" and give us yet one more vaccine to solve that problem -- !!
0 / 
MonkesTale • a day ago
"The New York Times notes three 2011 studies by scientists at Columbia University, the University of California, Berkeley, and Mount Sinai Hospital in Manhattan that studied pregnant women exposed to higher amounts of an organophosphate pesticide. Once their children reached elementary school they "had, on average, I.Q.'s several points lower than those of their peers." Organophosphate pesticides are some of the worst chemicals farmers use. Their use was greatly reduced recently with the introduction of gm corn designed to kill rootworms. This was wonderful news to corn farmers. Unfortunately, as another article here at CD explains, rootworms are already developing resistance to the technology. This always happens sooner or later, but this soon was a shock. Sadly, this means organophosphate pesticide use will again be on the increase. Applicators of these pesticides are at greatest risk. For decades now, I've had to take a government test every 3 years in order to apply these and other of the most risky pesticides. I try to use as little as possible and still provide protection when warranted. Without government programs many might not realize that handling dangerous chemicals, then laundering their clothing, might contaminate the washing machine and dryer and cause unnecessary exposure to one's family.
3 / 
1 * 
GreenwichAvenue • 19 hours ago • parent
That's our choice -- frankenfoods by Monsanto -- or pesticides?
Silent Spring?
0 / 
MonkesTale • 13 hours ago • parent
Many forget how many carcinogens and potential carcinogens that we all live with. They're in our carpet and many building materials, in baby shampoo and many personal products, and in the air we breath.
1 / 
OmniaQuaerite • a day ago
Biostitution at work.
2 / 
GreenwichAvenue • 19 hours ago
This is one way of trying to kill the notion of pesticide free foods -- organics -- and healthier foods.
The other way, is with Monsanto's frankenfoods which will probably destroy other crops/seeds as it blows about and eventually will destroy all food/crops, including organic.
That we've been throwing pesticides over our foods for  decades -- was it after the war this began or before? --speaks to the ineffectiveness of our alleged people's government even that long ago and the weakness of our scientists. Capitalism is the basis for corruption --along with the idea that a dollar bill is worth anything.
We need to do away with both --
We have the power of the powerless -
We have the numbers --
We need to stop cooperating with this criminal system -- and to uninvent the dollar.
WAKE UP, AMERICA -- !!
2 / 
1 * 
Jonathan Rogers • 9 minutes ago
The lack of support for the opinions expressed in this article is hilarious. The part about people wanting to protect farm workers sounds like a valid issue, but it's irrelevant to the question the Stanford study examined, which was about the health of people eating the food.

Also, the author must be expecting that readers won't read what she links to since the study by Crystal Smith-Spangler, MD, doesn't seem to be available free of cost. However, the abstract of that study is on the linked page and contains this sentence: "It is concluded that nutritionally important differences relating to contents of minerals, vitamins, proteins and carbohydrates are not likely, primarily since none of these are deficient in typical First  World diets, nor are present levels of pesticide residues in conventional products a cause for concern." The abstract continues to suggest that their might be benefits to organic food, but that further study is needed. That sounds a lot like what the Stanford study says.
0 / 
Doug Latimer • an hour ago
Fact faulty fare

Consumed with relish by the corpress
0 / 
disqus_qFCC7QCFdJ • an hour ago
I have been growing organic (& Biodynamic) vegetables & grains & legumes since 1970 - from back yard gardens to 25 acres and back again. To my mind the most important reason to consume organic, beyond the individual health benefits, is to support the respect for THE SOIL that organic farmers naturally have. Healthy food comes from healthy soil - period. Modern chemical growers view soil as a medium in which to inject toxic chemicals which kill the micro-organisms that build healthy soil. My 2 cents. Thank you.
0 / 
Deb Foskey • an hour ago • parent
Thanks for taking it back to the basic raw material of food production. Our health is one thing, the Earth's another. Organic farming: for the earth.
0 / 
Boeser Wolf • an hour ago
We must stop poisoning our food, our water, our soil and our air. We are poisoning ourselves and destroying the world. This Stanford "study" is just plain wrong on so many levels.
0 / 
Detokeville • 3 hours ago

http://organicfarms.wsu.edu/bl...

Here is Charles Benbrook's intelligent piece which includes remarks about pesticides and epigenes. He teaches at Western Washington State University, which seems to be quite the cut above Stanford, and probably a good place for students to learn.

 (Humboldt State in Arcata awarded Lappe' an honorary degree.)
0 / 
victoria tuggey • 13 hours ago
Not unlike lobbyists, industry predicts if they cover us up with junk science they can miseducate us enough to maintain control. Anyone who's eaten organic fresh-picked and is at all in touch with their body can feel 500% more nutrition. There's bio & photo nutrients, monatomics, i believe, that organic & local clean heirloom varieties are able to give the body. Industrial fertilizers disrupt not only the nutrient make-up, but another aspect of nutrition we don't fully grasp yet, an electromagnetic energy in our food. In my personal experience, this is also affected by amalgam fillings.
0 / 
MonkesTale • 12 hours ago • parent
I'm sure that a non-local, unclean, non-hairloon variety is bad news. Be sure to watch out for diatomics with warped electromagnetic spectra. These can kill in a matter of minutes.
0 /  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น