Sanders
Bill Would Break Up Big Banks
Cites
Justice Dept. Worries that Banks are ‘Too Big to Jail’
Michael Briggs, March 27, 2013, 5:47
PM CONTACT: Senator Bernie Sanders
ร่าง พรบ แซนเดอร์ จะทุบกระปุกหมูธนาคารใหญ่
กระทรวงยุติธรรมห่วงว่าธนาคารจะ “ใหญ่เกินจำคุก”
ไมเคิล บริกส์
WASHINGTON - March 27 –
U.S. Sen. Bernie Sanders (I-Vt.)
said today he will introduce legislation to break up banks that have grown so
big that the Justice Department has not pursued prosecutions for fear an
indictment would harm the financial system.
สว
เบอร์นี แซนเดอร์ กล่าวว่า วันนี้เขาจะนำเสนอต่อฝ่ายนิติบัญญัติให้ทุบธนาคารที่เติบใหญ่มากจนกระทรวงยุติธรรมไม่กล้าฟ้องร้องเพราะกลัวว่า
ข้อกล่าวหาจะทำร้ายระบบการเงิน.
The 10 largest banks in the United
States are bigger now than before a taxpayer bailout following the 2008
financial crisis. At the time Congress, over Sanders’ objection, approved a
$700 billion bank rescue because of concerns by some that the financial
institutions were too big to fail. Another $16 trillion from the Federal
Reserve propped up financial institutions.
สิบธนาคารใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ
เดี๋ยวนี้ใหญ่โตมากกว่าเมื่อก่อน--ครั้งเมื่อผู้เสียภาษีช่วยกันวิดน้ำกู้ชีพให้รอดจากวิกฤตการเงินปี
2008. ครั้งนั้น, แม้ว่าแซนเดอร์จะได้คัดค้าน,
คองเกรสได้อนุมัติงบ $700 พันล้าน เพื่อกู้ชีพธนาคาร
เพราะเกรงว่า บางสถาบันการเงินจะใหญ่เกินกว่าจะล้ม. อีก $16 ล้านล้าน จากกองทุนสำรองของรัฐบาลกลาง
อัดฉีดให้สถาบันการเงินให้กลับยืนขึ้นได้.
Attorney General Eric H. Holder Jr.
now says the Justice Department may not pursue criminal cases against big banks
because filing charges could “have a negative impact on the national economy,
perhaps even the world economy.”
อัยการ
อีริค โฮลเดอร์ จูเนียร์ ตอนนี้ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมอาจไม่ไล่บี้ธนาคารใหญ่ๆ
ด้วยข้อหาอาชญากรรม เพราะการฟ้องร้องอาจ “ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจชาติ,
อาจถึงเศรษฐกิจโลกด้วย”.
“In other words,” Sanders said, “we
have a situation now where Wall Street banks are not only too big to fail, they
are too big to jail. That is unacceptable and that has got to change because
America is based on a system of law and justice.”
“หรือพูดง่ายๆ”,
แซนเดอร์กล่าว, “เรามีสถานการณ์ตอนนี้ ที่ ธนาคารวอลล์สตรีท
ไม่เพียงแต่ใหญ่เกินไปที่จะล้ม, พวกมันยังใหญ่เกินกว่าจะจำคุกได้ด้วย. มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และ จะต้องเปลี่ยน
เพราะอเมริกาตั้งอยู่บนระบบของกฎหมายและความยุติธรรม”.
U.S. banks have become so big that
the six largest financial institutions in this country (J.P. Morgan Chase, Bank
of America, Citigroup, Wells Fargo, Goldman Sachs, and Morgan Stanley) today
have assets of nearly $9.6 trillion, a figure equal to about two-thirds of the
nation’s gross domestic product. These six financial institutions issue more
than two-thirds of all credit cards, over half of all mortgages, control 95
percent of all derivatives held in financial institutions and hold more than 40
percent of all bank deposits in the United States.
ธนาคารสหรัฐฯ
ได้ขยายใหญ่มากจน สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศนี้ (J.P. Morgan Chase, Bank of America, Citigroup, Wells Fargo,
Goldman Sachs, and Morgan Stanley) ณ วันนี้ มีทรัพย์สินเกือบ $9.6 ล้านล้าน, ตัวเลขเท่ากับประมาณ 2/3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
(จีดีพี). หกสถาบันการเงินเหล่านี้
ได้ปล่อยบัตรเครดิตมากกว่า 2/3 ของบัตรทั้งหมด,
กว่าครึ่งหนึ่งของสัญญาจำนองทั้งหมด, ควบคุม 95% ของตัวเล่นลงทุนทั้งหมดในสถาบันการเงินทั้งปวง
และ ครอบคลุมกว่า 40% ของเงินฝากทั้งหมดในธนาคารในสหรัฐฯ.
Sanders’ legislation would give
Treasury Secretary Jacob Lew 90 days to compile a list of commercial banks,
investment banks, hedge funds and insurance companies that he deems too big to
fail. The affected financial institutions would include “any entity that has
grown so large that its failure would have a catastrophic effect on the
stability of either the financial system or the United States economy without
substantial government assistance.”
ร่าง
พรบ ของแซนเดอร์ จะให้ เลขาธิการกระทรวงการคลัง เจคอบ ลิว 90 วัน ในการรวบรวมรายชื่อธนาคารพาณิชย์, ธนาคารลงทุน, hedge funds และ บริษัทประกัน
ที่เขาเห็นว่าใหญ่เกินจะล้ม.
สถาบันการเงินที่ถูกกระทบนี้ จะรวม “นิติบุคคลใดที่เติบใหญ่มากถึงขนาดหากล้มเหลว
จะเกิดผลกระทบหายนะต่อเสถียรภาพของไม่ระบบการเงิน ก็ระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ
โดยปราศจากการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมจากรัฐบาล”.
Within one year after the
legislation became law, the Treasury Department would be required to break up
those banks, insurance companies and other financial institutions identified by
the secretary.
ภายในหนึ่งปี
หลังจาก พรบ กลายเป็นกฎหมาย, กระทรวงการคลังจะต้องทุบกระปุกธนาคาร,
บริษัทประกันเหล่านี้, และสถาบันการเงินอื่นๆ ที่เลขาธิการได้ชี้ระบุไว้.
“If an institution is too big to
fail, it is too big to exist,” Sanders said. “No single financial institution
should be so large that its failure would cause catastrophic risk to millions
of American jobs or to our nation’s economic wellbeing. No single financial
institution should have holdings so extensive that its failure could send the
world economy into crisis,” Sanders said. “We need to break up these
institutions because they have done of the tremendous damage they have done to
our economy.”
“หากสถาบันหนึ่งใหญ่เกินไปจนล้มไม่ได้,
มันก็ใหญ่เกินไปที่จะดำรงอยู่ต่อไป”, แซนเดอร์กล่าว. “ไม่ควรมีสถาบันการเงินแม้เพียงรายเดียวที่ใหญ่มากจนความล้มเหลวของมัน
กลายเป็นสาเหตุของความเสี่ยงให้เกิดหายนะต่องานจ้างของชาวอเมริกันนับหลายล้าน หรือ
ต่อความอยู่ดีมีสุขของเศรษฐกิจของชาติ.
ไม่ควรมีสถาบันการเงินแม้เพียงแห่งเดียว ที่ถือครองมากมายถึงขั้นที่ว่า
หากมันล้ม จะพลอยดึงให้เศรษฐกิจโลกตกสู่ภาวะวิกฤต”, แซนเดอร์กล่าว. “เราจำเป็นต้องทุบกระปุกสถาบันเหล่านี้ให้แยกเป็นหน่วยย่อยเล็กลง
เพราะ พวกมันได้สร้างความเสียหายมหาศาลมาแล้วต่อเศรษฐกิจชาติของเรา”.
To watch Sanders’ Senate floor
speech, click here.
###
United States Senator for Vermont
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น