Visions
of a Sustainable, Pollution-Free New York by 2030
By
Stephen Leahy
วิสัยทัศน์ สู่นครนิวยอร์ก
ที่ปลอดมลภาวะ และ ยั่งยืน
The
Empire State Building viewed at night. Credit: NLNY/cc by 2.0
UXBRIDGE,
Canada, Mar 19 2013 (IPS) - As usual, midtown Manhattan is
packed with whisper-quiet cars and trams while thousands walk the streets
listening to the birds of spring sing amongst the gleaming, grime-free
skyscrapers in the crystal-clear morning air.
เช่นปกติ,
ใจกลางแมนฮัตตันแน่นขนัดไปด้วยรถยนต์และรถรางที่เงียบกริบ ในขณะที่คนเดินถนนนับพันฟังเสียงเจื้อยแจ้วของนกในฤดูใบไม้ผลิ
ท่ามกลางตึกระฟ้าที่เป็นประกาย ไร้มลทินในอากาศยามเช้าที่สดใสดั่งแก้วผลึก.
Welcome
to New York City in April 2030.
I
think the public will be 100 percent behind this, if they
know about it.
ขอต้อนรับสู่นครนิวยอร์กในเดือนเมษายน
2030.
ผมคิดว่าสาธารณชนจะสนับสนุนเรื่องนี้
100%, หากพวกเขารู้เรื่องนี้.
This
is not a fantasy. It is a perfectly doable goal, said Stanford University
energy expert Mark Jacobson. In fact, the entire state of New York could be
powered by wind, water and sunlight based on a detailed plan Jacobson
co-authored.
นี่ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน. มันเป็นเรื่องที่ทำได้จริงๆ,
ผู้เชี่ยวชาญพลังงานแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มาร์ค เจค็อบสัน กล่าว. อันที่จริง,
ทั่วทั้งรัฐนิวยอร์กสามารถอยู่ได้ด้วยพลังงานจากลม, น้ำ และ แสงแดด ตามแผนละเอียดที่
เจค็อบสันร่วมเขียนขึ้น.
It’s
not only doable, powering New York on green energy is “sustainable and
inexpensive” and would save lives and health costs, Jacobson told IPS.
มันไม่เพียงแต่ทำได้,
การให้นิวยอร์กอยู่ได้ด้วยพลังงานสีเขียว เป็นเรื่อง “ยั่งยืนและไม่แพง”
และจะช่วยรักษาชีวิตและประหยัดต้นทุนด้วย, เจค็อบสันกล่าว.
Each
year, air pollution kills 4,000 people in New York State
and costs the public 33 billion dollars in health costs,
according to the study Jacobson co-authored with experts from all over the U.S.
It will be published in the journal Energy Policy.
ทุกๆ ปี, อากาศเป็นพิษได้คร่าชีวิต
4,000 คนในรัฐนิวยอร์ก และ สาธารณะ/ทางการ/รัฐบาลต้องเสียเงิน 33
พันล้านเหรียญเป็นค่าใช้จ่ายดูแลรักษาสุขภาพ, ตามการศึกษาที่ เจค็อบสัน
เขียนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากทั่วสหรัฐฯ ซึ่งจะถูกตีพิมพ์ในวารสารนโยบายพลังงาน.
“Converting
to wind, water and sunlight is feasible, will stabilise costs of energy and
will produce jobs while reducing health and climate damage,” said Jacobson.
“การแปลงลม, น้ำ และ แสงแดด เป็นเรื่องที่เป็นไปได้,
จะทำให้ต้นทุนพลังงานเสถียร และจะสร้างงานได้ด้วย
ในขณะที่ลดการทำลายสุขภาพและภูมิอากาศ”, เจค็อบสันกล่าว.
Under
the plan, 40 percent of New York State’s energy would come
from local wind power, 38 percent from local solar and the
remainder from a combination of hydroelectric, geothermal, tidal and wave
energy.
ภายใต้แผนนี้,
พลังงานของรัฐนิวยอร์ก 40% จะมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมในท้องถิ่น, 38%
มาจากพลังแสงอาทิตย์ท้องถิ่น และ ที่เหลือ จากการผสมผสานของพลังไฟฟ้าจากน้ำ,
ความร้อนใต้พิภพ, และน้ำขึ้น-น้ำลงและคลื่น.
All
vehicles would run on battery-electric power and/or hydrogen fuel cells.
Heating and cooling for homes and businesses would come from air- and
ground-source heat pumps, geothermal heat pumps, heat exchangers and backup
electric resistance heaters – replacing natural gas and oil. Water heaters
would be powered by the same heat pumps while solar hot water preheaters would
provide hot water for homes.
พาหนะทั้งหมดจะขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรีไฟฟ้า
และ/หรือ เซลไฮโดรเจน.
การทำความร้อนและความเย็นในบ้านและสำนักงาน/แหล่งธุรกิจ
จะมาจากปั๊มที่ใช้อาศัยความร้อนในอากาศและพื้นดิน, ความร้อนใต้พิภพ,
การแลกเปลี่ยนความร้อน และ เครื่องทำความร้อนสำรองที่ต้านไฟฟ้า—แทนการใช้ก๊าซและน้ำมันธรรมชาติ.
เครื่องทำน้ำร้อนจะใช้พลังงานจากปั๊มทำความร้อนเดียวกัน ในขณะที่
เครื่องทำน้ำอุ่นด้วยพลังแสงอาทิตย์จะจ่ายน้ำร้อนในบ้านเรือน.
High
temperatures for industrial processes would be obtained with electricity and
hydrogen combustion.
อุณหภูมิสูงๆ สำหรับกระบวนการทางอุตสาหกรรมจะมาจากไฟฟ้าและการเผาผลาญไฮโดรเจน.
All
of this can be accomplished with existing technology. The latest electric cars
can travel 300 kilometres between charges, said Jacobson.
ทั้งหมดนี้สามารถบรรลุได้ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว. รถไฟฟ้าคันล่าสุดสามารถวิ่งได้ 300 กมในการชาร์จเติมเต็มพลังงานแต่ละครั้ง.
The
significant costs of building renewable energy power plants, buying vehicles,
heat pumps and other equipment are more than made up over time through savings
in health costs and elimination of fuel costs by not having to buy any coal,
oil or gas. The break-even point would be between 10 and 15 years, the study estimates.
นัยสำคัญของต้นทุนในการสร้างโรงงานผลิตพลังงานหมุนเวียน,
ซื้อพาหนะ, ปั๊มความร้อน และอุปกรณ์อื่นๆ จะคืนทุนได้ทั้งหมดเมื่อเวลาผ่านไปด้วยการประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและขจัดต้นทุนเชื้อเพลิงโดยไม่ต้องซื้อถ่านหิน,
น้ำมัน หรือ แก๊ส.
จุดคืนทุนหมดน่าจะประมาณ 10 และ 15 ปี ตามการประเมินของงานวิจัย.
The
study also found that because green electricity is more efficient than burning
fuels, New York’s end-use power demand would be 37 percent
lower.
งานศึกษาวิจัยพบด้วยว่า
เพราะไฟฟ้าสีเขียวมีประสิทธิภาพกว่าเชื้อเพลิงที่เผาไหม้,
ผู้บริโภคพลังงานในนิวยอร์กจะมีความต้องการลดลง 37%.
“Electric
vehicles are five times more energy efficient than gasoline-powered cars and
buses,” Jacobson said.
“พาหนะไฟฟ้าใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพกว่ารถและรถบัสที่ใช้น้ำมันถึงห้าเท่า”,
เจค็อบสันกล่าว.
Electric
vehicles convert 90 percent of the electrical energy from
the grid to power at the wheels while conventional gasoline vehicles only
convert about 20-25 percent, while the rest is lost as
heat and noise. Coal and oil-fired electric power plants average just 33 percent efficiency and are major sources of air pollution and
global warming.
พาหนะไฟฟ้าแปลงพลังงานไฟฟ้า 90% จากโครงข่ายพลังงานที่ล้อ ในขณะที่พาหนะที่ใช้น้ำมันแบบเดิมแปลงได้เพียง 20-25%, และที่เหลือสูญเสียเป็นความร้อนและเสียง. โรงผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินและน้ำมัน
โดยเฉลี่ยมีประสิทธิภาพเพียง 33%
และยังเป็นแหล่งสำคัญของอากาศเป็นพิษ และ โลกร้อน.
Pollution
costs from burning fossil fuels have largely been underestimated, according to
new research. Canadian researchers found that the health cost to the public of
driving a car or truck is 300 to 800
dollars per year per vehicle.
ต้นทุนมลภาวะจากการเผาผลาญซากดึกดำบรรพ์
ได้ถูกมองข้ามเสียมาก, ตามที่งานวิจัยใหม่พบ.
นักวิจัยชาวแคนาดาพบว่า ต้นทุนของการขับรถหรือรถบรรทุกต่อสุขภาพของสาธารณชน
ต่อคัน คิดเป็น 300-800
เหรียญ ต่อปี ต่อคัน.
The
public’s conception and official costs of pollution may be drastically
undervalued, said Amir Hakami at Carleton University in Ottawa.
ความเข้าใจของสาธารณชนและค่าใช้จ่ายทางการของมลภาวะอาจจะถูกตีค่าต่ำมากเกินไป,
อเมียร์ หะคามิ ที่มหาวิทยาลัยคาร์เลตันในอ๊อตตาวากล่าว.
“While
reducing emissions from vehicles and power plants is costly, not reducing
emissions also costs money. Our research suggests that ignoring pollution will
cost much more in the long term,” said Hakami in a statement.
“ในขณะที่การลดการปล่อยก๊าซจากพาหนะและโรงไฟฟ้าจะแพงมาก,
การไม่ลดการปล่อยก๊าซก็ต้องใช้เงินเหมือนกัน.
งานวิจัยของเราแนะว่า การมองข้ามมลภาวะจะแพงกว่ามากๆ ในระยะยาว”,
หะคามิกล่าวในแถลงการณ์.
When
the sun doesn’t shine or wind doesn’t blow, there are many ways to match energy
supply with demand, the study found. All electrical grids rely on a number of
power sources and fossil-fuelled and nuclear power plants are taken off grid
sometimes for months and years for repairs. Geographically-dispersed renewables
can be networked with hydroelectric power to fill in remaining gaps. Energy can
be also be stored in various ways including as heat, water pumped uphill, and
batteries.
เมื่อไรดวงอาทิตย์ไม่ส่องแสง
หรือ ลมไม่พัด, มีหลายวิธีการที่จะจับคู่แหล่งพลังงานให้เข้ากับความต้องการ,
งานวิจัยพบเช่นนั้น.
โครงข่ายไฟฟ้าทั้งหมดต้องพึ่งแหล่งพลังงานหลายประเภท
และโรงผลิตพลังงานที่ใช้ซากดึกดำบรรพ์หรือนิวเคลียร์ บางทีก็ต้องพักเป็นเวลานานนับหลายเดือนหรือหลายปีเพื่อซ่อมแซม.
แหล่งพลังงานหมุนเวียนที่กระจายในเชิงภูมิศาสตร์
สามารถจะเชื่อมโยงเข้าเป็นเครือข่ายกับพลังงานไฟฟ้าจากน้ำ
เพื่อเติมเต็มในช่องว่างที่เหลือ.
พลังงานสามารถเก็บไว้ได้หลายทาง รวมทั้ง ในรูปความร้อน, ปั๊มน้ำขึ้นเขา,
และแบตเตอรี.
Improvements
in energy efficiency would make New York’s conversion to 100
percent green energy easier, faster and less costly, Jacobson acknowledged.
การปรับปรุงประสิทธิภาพของพลังงานจะทำให้นิวยอร์กเปลี่ยนไปใช้พลังงานสีเขียว
100% ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น, เร็วขึ้น และ ถูกกว่า, เจค็อบสันกล่าว.
Governments
have invested very little in improving energy efficiency. The majority of
research investment is devoted to generating more energy, said Charlie Wilson,
a scientist with the International Institute for Applied Systems Analysis in
Laxenberg, Austria.
รัฐบาลได้ลงทุนน้อยมากในการปรับปรุงประสิทธิภาพของพลังงาน. การลงทุนงานวิจัยส่วนใหญ่ทุ่มให้กับการผลิตพลังงานให้มากขึ้น,
ชาร์ลี วิลสัน กล่าว, เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ สถาบันวิเคราะห์ระบบประยุกต์นานาชาติ
ใน ลาเซนเบอร์ก, ออสเตรีย.
Creating
a low-cost, high efficiency refrigerator would do much to reduce energy and
reduce carbon emissions, Wilson said.
การสร้างตู้เย็นที่ราคาถูกแต่ประสิทธิภาพสูง
จะช่วยลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยคาร์บอนอย่างมาก, วิลสันกล่าว.
“There
are also enormous energy savings potential in buildings,” Wilson told IPS.
“อาคารตึกต่างๆ
ก็มีศักยภาพมหาศาลในการประหยัดพลังงาน”.
But
politicians don’t think building retrofits are sexy so public money goes into
new power plants. The market won’t drive retrofits because the cost of energy
is too low in most countries, he said.
แต่นักการเมืองไม่คิดว่า การค้ากำไรแบบล่นถอยหลัง
ไม่เซ็กซี่พอ ดังนั้น เงินสาธารณะจึงไหลไปสู่การสร้างโรงผลิตพลังงานใหม่ๆ. ตลาดไม่ยอมขับเคลื่อนการทำกำไรแบบล่นถอยหลัง
เพราะ ค่าใช้จ่ายในพลังงานต่ำเกินไปในหลายๆ ประเทศ.
Changing
this won’t be easy. By far the world’s biggest corporations are the fossil fuel
energy and power producers, who have enormous political influence, he said.
การผลักดันให้เปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องง่าย. ถึงตอนนี้ บรรษัทใหญ่ที่สุดในโลก คือ
ผู้ผลิตพลังงานจากซากดึกดำบรรพ์ และผู้ผลิตไฟฟ้า, พวกเขามีอิทธิพลทางการเมืองมหาศาล,
เขากล่าว.
Leadership
is needed to create a clean and healthy, pollution-free New York City by 2030, said Jacobson. “I think the public will be 100
percent behind this, if they know about it.”
จำเป็นต้องมีภาวะผู้นำในการสร้างนครนิวยอร์กที่สะอาดและแข็งแรง,
ปลอดมลภาวะ ภายในปี 2030,
เจค็อบสันกล่าว. “ผมคิดว่าสาธารณชนจะสนับสนุนเรื่องนี้
100%, หากพวกเขารู้เรื่องนี้.
“The
economics of this plan make sense,” said Anthony Ingraffea, a Cornell
engineering professor and a co-author of the study. “Now it is up to the
political sphere.”
“เศรษฐศาสตร์ของแผนนี้เข้าท่า”
แอนโธนี อิงกราฟฟี กล่าว, เขาเป็นศาสตราจารย์คณะวิศวะของมหาวิทยาลัยคอร์แนล และ
ผู้ร่วมเขียนรายงานชิ้นนี้.
“ตอนนี้มันขึ้นกับวงการเมืองแล้ว.”
ดรุณี
ตันติวิรมานนท์ แปล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น