217.
Unaccountable Sufferings inflicted by Ill-managed Humanitarian Aid in Haiti
As
the UN Evades Responsibility for the Cholera Epidemic, Haitians Continue to
Suffer
by Lauren Carasik
ในขณะที่
ยูเอ็น หลบหลีกความรับผิดชอบต่อการแพร่ระบาดอหิวาต์,
ชาวไฮติยังคงทนทุกข์ทรมานต่อไป
โดย ลอเรน การาสิก
Advocates
for over 5,000 victims of cholera in Haiti put the UN on notice that they
intend to file suit in a national court if the UN continues its refusal to
provide compensation for its negligence in introducing cholera to the country.
Haiti’s first cholera epidemic in over a century compounded the misery in a
country reeling from the devastating 2010 earthquake that ravaged its already
vulnerable health and sanitation system. As of this month, the epidemic has
caused incalculable suffering - the death toll from cholera exceeds 8,100, and
over 654,000 Haitians have been sickened.
Despite multiple scientific studies that have consistently attributed
the cause of the outbreak of cholera in Haiti to UN troops from Nepal and the
UN’s negligent waste disposal system, the UN is claiming that it is immune from
claims.
ผู้สนับสนุนเหยื่ออหิวาตกโรคกว่า
5,000
คนในไฮติ ได้ยื่นข้อความต่อ ยูเอ็น ว่า พวกเขาตั้งใจจะฟ้องร้องในศาลแห่งชาติ
หาก ยูเอ็น ยังคงปฏิเสธที่จะจ่ายเงินชดเชย ความสะเพร่าในการนำเชื้ออหิวาต์เข้ามาในประเทศนี้. โรคระบาดอหิวาต์ครั้งแรกของไฮติในช่วงหนึ่งศตวรรษ
เป็นการทับถมความทุกข์แสนสาหัสในประเทศหลังจากแผ่นดินไหวทำลายล้างครั้งยิ่งใหญ่ในปี
2010
ที่ถล่มทลายระบบสุขภาพและสาธารณสุขที่เปราะบางอยู่แล้วของประเทศ. ในเดือนนี้,
โรคระบาดได้เป็นสาเหตุของความทุกข์ที่ประเมินมิได้—คนตายด้วยโรคอหิวาห์สูงเกิน 8,100 และ ชาวไฮติกว่า 654,000 คนก็ป่วยหนัก. ทั้งๆ ที่มีงานศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์มากมาย
ที่สาวสาเหตุการปะทุในไฮติครั้งนี้ว่า มาจากกองทหาร ยูเอ็น จากเนปาล และ
ความสะเพร่าของยูเอ็น ในการจัดระบบกำจัดของเสีย, ยูเอ็น กลับอ้างว่า
มันมีภูมิคุ้มกันจากการกล่าวหาดังกล่าว.
Many Haitians have long blamed
peacekeepers for bringing cholera to the country. (Photo: AP)
The
Institute for Justice and Democracy in Haiti and the Bureau des Avocats
Internationaux submitted a claim on behalf of cholera victims for relief and
reparations to the UN on November 3, 2011, requesting that the UN upgrade the
national water and sanitation infrastructure, provide compensation to victims
for their losses, and issue a public apology. For more than a year, the UN
refused to formally respond to the claim. Finally, in a letter dated February
21, 2013, the UN dismissed these claims, asserting that they are “not
receivable pursuant to Section 29 of the Convention on the Privileges and
Immunities of the United Nations,” and justifying immunity on the theory that
“consideration of these claims would necessarily include a review of political
and policy matters.” Despite this
assertion, the UN declined to provide any real legal justification for its
avoidance of responsibility, which lawyers for the claimants characterize as
flimsy. As advocates note, the negligent disposal of waste hardly constitutes
“political and policy matters.” In
addition to claiming immunity, UN Secretary General Ban Ki-moon has pointedly
declined to accept or deny the UN’s responsibility for introducing cholera to
Haiti, despite the overwhelming scientific evidence of its culpability.
สถาบันความยุติธรรมและประชาธิปไตย
ในไฮติ และ หน่วยงาน Bureau
des Avocats Internationaux ได้ยื่นคำร้องแทนเหยื่ออหิวาต์ ขอให้ช่วยบรรเทา
และ ชดเชย ต่อยูเอ็น เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2011, ขอให้ ยูเอ็น ยกระดับสาธารณูปโภคน้ำใช้และสาธารณสุขแห่งชาติ,
ให้เงินชดเชยแก่เหยื่อ, และ แถลงขอโทษสาธารณะ.
เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว, ยูเอ็น
ก็ยังคงปฏิเสธที่จะตอบสนองอย่างเป็นทางการ.
ในที่สุด, ในจดหมายลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์
2013, ยูเอ็น ปัดทิ้งคำร้องทุกข์เหล่านี้, ยืนกรานว่า พวกเขา
“ไม่สามารถรับการไล่ล่า ตามบทที่ 29 ของอนุสัญญาว่าด้วยอภิสิทธิ์
และ การคุ้มครอง/ภูมิคุ้มกัน ของสหประชาชาติ” และ ให้ความชอบธรรมกับ การคุ้มกัน
ด้วยทฤษฎีที่ว่า “การพิจารณาคำร้องทุกข์เหล่านี้
จำเป็นต้องทบทวนประเด็นด้านการเมืองและนโยบายด้วย”. ทั้งๆ ที่ยืนยันอย่างนี้, ยูเอ็นก็เลี่ยงที่จะให้ความชอบธรรมด้านกฎหมายจริงจังใดๆ
ต่อการละเลยความรับผิดชอบดังกล่าว, ซึ่งทนายความฝ่ายเจ้าทุกข์ บรรยายว่า
เบาบางมาก.
ดังที่ผู้สนับสนุนตั้งข้อสังเกตไว้, ความละเลยต่อระบบการกำจัดของเสีย
ไม่เห็นมีอะไรเกี่ยวข้องกับ “ประเด็นด้านการเมืองและนโยบาย” เลย. นอกจากการอ้างถึงภูมิคุ้มกัน, เลขาธิการยูเอ็น
บัน คี-มูน ได้บ่ายเบี่ยงที่จะรับหรือปฏิเสธความรับผิดชอบของ ยูเอ็น
ที่ได้นำเชื้ออหิวาต์เข้าสู่ไฮติ, ทั้งๆ ที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ล้นหลามรองรับ.
For
an institution whose mission includes upholding the rule of law and alleviating
poverty, the UN’s conduct in administering and overseeing its troops’
“stabilization mission” in Haiti, known by its French acronym, MINUSTAH, has
been deplorable. The Status of Forces
Agreement between the UN and the Haitian government required the UN to
institute a Standing Claims Commission to resolve civil claims against MINUSTAH
troops. Despite the presence of MINUSTAH troops in Haiti since 2004, the UN
never set up the Commission, depriving Haitians of any mechanism to redress
grievances. The UN’s refusal to accept responsibility for cholera occurs
against a backdrop of impunity for misconduct perpetrated by MINUSTAH troops in
Haiti, such as sexual misconduct, including Uruguayan soldiers whose sexual
assault of a young man was recorded on video, and credible charges against
Pakistani and Sri Lankan troops. Critics
note that the presence of MINUSTAH remains controversial among Haitians, and
that the $648 million per year budget for the UN peacekeeping mission could
instead be repurposed to fund two years of the cholera elimination initiative.
สำหรับสถาบันหนึ่งที่ภารกิจ
รวมถึงการเคารพกฎหมาย และ บรรเทาความยากจน, การบริหารและดูแลของ ยูเอ็น ต่อ
กองทัพเพื่อ “ภารกิจสร้างความเสถียร” ในไฮติ, ที่เรียกตามคำย่อภาษาฝรั่งเศสว่า, MINUSTAH, เป็นเรื่องน่าตำหนิ. ตาม
ข้อตกลงว่าด้วยสถานภาพของกองกำลัง ระหว่าง ยูเอ็น กับ รัฐบาลไฮติ บังคับให้ ยูเอ็น
สถาปนา คณะกรรมการรับคำร้องทุกข์ เพื่อแก้ปัญหาร้องทุกข์ของพลเรือน
ที่มีต่อกองกำลัง MINUSTAH. ทั้งๆ ที่มีกองกำลัง MINUSTAH ในไฮติ ตั้งแต่ ปี 2004, ยูเอ็น ไม่เคยสถาปนา คณะกรรมการดังกล่าว, ซึ่งกีดกันชาวไฮติ
ไม่ให้มีกลไกใดๆ ที่จะร้องทุกข์. ยูเอ็น
ปฏิเสธที่จะยอมรับความรับผิดชอบใดๆ ต่อการปะทุของอหิวาต์ โดยอ้างภูมิคุ้มกันโทษ
จากการประพฤติมิชอบใดๆ ที่กระทำโดย MINUSTAH ในไฮติ, เช่น
ความล่วงละเมิดทางเพศ, รวมทั้งการที่ทหารชาวอูรูกวัย ที่ได้กระทำรุนแรงทางเพศต่อชายหนุ่มคนหนึ่ง
ที่ได้ถูกบันทึกในวีดีโอ, และ ข้อกล่าวหาที่เชื่อถือได้ต่างๆ ต่อกองกำลังปากีสถาน
และ ศรีลังกา. นักวิพากษ์
ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การคงอยู่ของ MINUSTAH เป็นเรื่องที่ขัดแย้งในตัวเอง
ในความเห็นของชาวไฮติ, และเจ้างบประจำปี $648 ล้าน เพื่อการมีกองกำลังรักษาความสงบ
น่าจะเปลี่ยนเป้าประสงค์ไปเป็นโครงการขจัดอหิวาห์ในเวลา 2 ปี.
Aside
from the legal imperative, the UN has a moral obligation to remedy the harm it
caused in Haiti. In tacit recognition of
its obligation to help ameliorate the devastating impact of the cholera
epidemic, Ban Ki-moon vowed five months ago to “use every opportunity” to
generate the resources necessary to end cholera in Haiti. Despite its laudatory pronouncement,
fundraising efforts have yielded only a fraction of the necessary money to
combat cholera, a shortfall exacerbate other failures in the flow of aid to
Haiti - more than a third of the $5.4 billion that the international community
pledged for reconstruction has not been paid.
According to a report issued by Physicians for Haiti, the UN also
refuses to implement the recommendations of its own experts to prevent a
recurrence, despite the fact that three of the recommendations could be
implemented at either no or minimal cost to the UN.
นอกจากแง่มุมทางกฎหมายแล้ว, ยูเอ็น
ยังมีพันธะเชิงศีลธรรมในการบรรเทาความเสียหายที่ได้เป็นสาเหตุให้เกิดขึ้นในไฮติ. การยอมรับโดยนัยถึงพันธกิจที่ต้องช่วยปรับปรุงผลกระทบจากการระบาดของอหิวาต์,
บัน คี-มูน สัญญาเมื่อ 5 เดือนก่อน ว่า จะ “ใช้ทุกๆ โอกาส” ระดมทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อยุติอหิวาต์ในไฮติ. ทั้งๆ ที่เป็นคำประกาศที่น่าชื่นชม,
การระดมทุนได้ผลเพียงเสี้ยวหนึ่งของเงินที่จำเป็นต้องใช้ในการต่อสู้กับอหิวาต์,
ผลที่ตามมา คือ สายธารการช่วยเหลือสู่ไฮติก็ล้มเหลวไปด้วย—กว่า หนึ่งในสารท
ของเงิน $5.4
พันล้าน ที่ประชาคมนานาชาติได้สัญญาเพื่อบูรณะประเทศ ยังไม่ได้มีการจ่าย. ตามรายงานที่แถลงโดย กลุ่ม แพทย์เพื่อไฮติ,
ยูเอ็น ยังได้ปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญของตน
ในการป้องกันไม่ให้อหิวาต์หวนกลับมา, ทั้งๆ ที่ จริงๆ แล้ว คำแนะนำสามข้อ
ในทั้งหมด สามารถจะดำเนินการได้ โดยไม่ต้องมี หรือ ใช้ต้นทุนเพียงนิดเดียว
สำหรับยูเอ็น.
Advocates
notified the UN in a response letter dated May 7 that if there was not progress
toward a reasonable resolution of these claims, they will file suit in a
national court, convinced that the law is on their side. As the UN evades
responsibility, the economic and human costs of delaying remediation of the
epidemic are incalculable, and cholera continues to inflict preventable
suffering and deaths. Although cholera has receded temporarily, cases between
November through February were higher than the same period last year. Moreover, the rainy season is looming, which
typically ushers in a spike in cases.
Experts note that a well-managed effort is required to completely
eliminate the epidemic. Haiti’s vulnerability to an epidemic emanating from
water-borne disease was not a surprise, nor is the impoverished country’s
inability to vanquish cholera on its own. While the Haitian government lacks
the institutional and financial resources to address this crisis, the UN has
both the legal and moral obligation to provide reparations and to finance
improvements to the weak health and sanitation infrastructure that impede the
eradication of cholera on Haitian soil.
This UN’s response to the cholera crisis it caused demonstrates why a lawsuit
is critical: both to force the UN to
take the steps necessary to control the epidemic, and to set standards of
accountability and deterrence, by making the price of future malfeasance
unpalatable.
ผู้สนับสนุนได้ยื่นข้อความต่อ
ยูเอ็น ในจดหมาย ลงวันที่ 7 พค ว่า หากไม่มีความก้าวหน้าสู่การแก้ปัญหาอย่างสมเหตุสมผล ต่อ คำร้องทุกข์ทั้งสามนี้,
พวกเขาจะยื่นฟ้องต่อศาลแห่งชาติ, ด้วยเชื่อว่า กฎหมายอยู่ฝ่ายพวกเขา. ในขณะที่ยูเอ็นหลบเลี่ยงความรับผิดชอบ,
ต้นทุนเศรษฐกิจ และ มนุษย์ จากความล่าช้า หย่อนยานในการแก้ไขโรคระบาดนั้นคำนวณค่ามิได้,
และ อหิวาต์ ก็ยังคงอาละวาดต่อไป ทั้งๆ ที่เป็นความทุกข์และความตายที่ป้องกันได้. แม้ว่า อหิวาต์ได้ลดลงชั่วคราว,
ผู้ป่วยระหว่าง พย ถึง กพ ก็ยังสูงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีกลาย. ยิ่งกว่านั้น, ฤดูฝนกำลังย่างเข้ามา, ซึ่งปกติ
จะทำให้การระบาดพุ่งขึ้นสูง. ผู้เชี่ยวชาญ
บอกว่า ความพยายามที่มีการจัดการอย่างดี เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อขจัดโรคระบาด.
ความเปราะบางของไฮติต่อโรคระบาดที่พาหะมากับน้ำ เป็นเรื่องไม่น่าประหลาดใจเลย,
หรือ การที่ประเทศยากจนนี้ ไม่สามารถกำจัดอหิวาต์ได้ด้วยตัวเอง. ในขณะที่รัฐบาลไฮติไม่มีทรัพยากรเชิงสถาบันและการเงิน
ในการแก้ปัญหาวิกฤตนี้, ยูเอ็น มีทั้งพันธะเชิงกฎหมายและศีลธรรม
ในการชดเชยช่วยเหลือ และ ให้ทุนปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคด้านสุขภาพและสาธารณสุขที่อ่อนแอ
ที่ขัดขวางการขจัดอหิวาต์. การตอบสนองของ
ยูเอ็น ต่อวิกฤตอหิวาต์ ที่ตนเป็นต้นเหตุ แสดงให้เห็นว่า
การฟ้องร้องเป็นเรื่องจำเป็นยิ่ง: ทั้งเป็นการบังคับให้
ยูเอ็น ดำเนินขั้นตอนที่จำเป็นในการควบคุมโรคระบาด, และ
เพื่อสร้างบรรทัดฐานของความน่าเชื่อถือ และ การกีดขวาง,
โดยทำให้ราคาของการทุจริตในอนาคต กลืนไม่ลง.
Lauren
Carasik is a Clinical Professor of Law and the Director of the International
Human Rights Clinic and the Legal Services Clinic at Western New England
University School of Law.
ลอเรน การาสิก
เป็นศาสตราจารย์ทางคลินิกของวิชากฎหมาย และ ผอ. คลินิกสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และ
คลินิกบริการด้านกฎหมาย ที่ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นนิวอิงแลนด์ คณะนิติศาสตร์.
Published
on Monday, May 13, 2013 by Common Dreams
Siouxrose
• 7 hours ago
This is so sad... and so
criminal! The outcome was also understood from the get-go. It reminds me of the
way the U.S. MIC elite lies about Depleted Uranium and the legacy of deformed
babies born in Iraq; and it also brings to mind the way the U.S. MIC, and
Monsanto, its partner in war crimes, lied about Agent Orange's link to Cancer
and genetic mutations still reverberating in Vietnam.
"The blankets they give
the Indians only make them die..." (Michael Franks)
silvermaran
• 8 hours ago
They
let criminals go in there after the EQ and vaccinate depressing their already
stressed immune systems and then give them vitamin A only which is also shown
to depress the immune system. How much and how many Islands in the stream are
they STEALING by getting rid of their owners by adding infectious junk to the
infections they already suffer?
Over
80% of the pop.s infected with gene sharing stealth that does not care what it
shares its genes with to survive and YOUR tax dollars paid to help murder them!
http://www.youtube.com/watch?f...
Siouxrose
> silvermaran • 7 hours ago −
The material on You Tube
exposing what's in today's vaccines is proof positive of what can only seem
like a plot to reduce population numbers. When I was a child, I think we got
5-6 shots, and now it's up to something like 70 doses! These bastards hiding
behind lab coats and the MDeity are pouring aluminum, Formaldyhide, and Mercury
into the clean defenseless bodies of millions of babies!
More and more kids are getting
sick RIGHT after these chemical cocktails hit their systems; and more and more
parents are joining together to expose the LIE that these things improve the
population's health. The numbers are now that 1 in 6 children will incur some
form of learning disability OR neurological disorder direct from these
dangerous chemical infusions.
It's a madness! In Europe, lead-based dental amalgams have
been LONG
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น