214.
Capitalist-patriarchal science to invent mutant food, create mutant human
species
Tackling
"Monoculture of the Mind"
Billionaires
forgo iron-rich crops in push for GM bananas in India
by Vandana Shiva
ยื้อยุด
“จิตเชิงเดี่ยว”
เศรษฐีพันล้านผละพืชอุดมธาตุเหล็ก
กลับผลักดันกล้วย จีเอ็ม ในอินเดีย
โดย วันทนา ศิวะ
ดรุณี
ตันติวิรมานนท์ แปล
Nature
has given us a cornucopia of biodiversity rich in nutrients. Malnutrition and
nutrient deficiency result from destroying biodiversity. The Green Revolution
has spread monocultures of chemical rice and wheat, driving out biodiversity
from our farms and diets. And what survived as spontaneous crops — like
amaranth greens (chaulai) and chenopodium (bathua) that are rich in iron — were
sprayed with poisons and herbicides. Instead of cherishing them as iron- and
vitamin-rich gifts, these vegetables were treated as “weeds”.
ธรรมชาติได้ให้ตะกร้าอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารจากหลากหลายชีวภาพ. ทุโภชนาการและภาวะขาดสารอาหารเป็นผลจากการทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ.
ปฏิวัติเขียวได้แพร่กระจายข้าวและข้าวสาลีเคมีเชิงเดี่ยว,
เบียดขับความหลากหลายทางชีวภาพออกพ้นจากไร่นาและจานอาหารของเรา. และพืชที่เหลือรอดเกิดเอง—เช่น amaranth
greens (chaulai / ผักโขม??) and chenopodium (bathua) ที่อุดมธาตุเหล็ก—ถูกฉีดพ่นด้วยยาพิษและยากำจัดวัชพืช.
แทนที่จะชื่นชมมันว่าเป็นของขวัญที่อุดมธาตุเหล็กและไวตามิน,
พืชผักเหล่านี้กลับถูกกระทำดั่งเป็น “วัชพืช”.
(Photo: Fernando Stankuns/ Flickr)
The
“monoculture of the mind” treats diversity as disease and creates coercive
structures to remodel this biologically and culturally diverse world of ours on
the concepts of one privileged class, one race and one gender of a single
species. As “the monoculture of the mind” took over, biodiversity disappeared
from our farms and food. It’s the destruction of biodiverse rich cultivation
and diets that has led us to the malnutrition crisis.
“จิตเชิงเดี่ยว”
กระทำต่อความหลากหลายทางชีวภาพประหนึ่งเชื้อโรค และ
สร้างโครงสร้างกดขี่เพื่อปรับเปลี่ยนโลกอันหลากหลายในชีวภาพและวัฒนธรรมของพวกเรา
ให้เข้ากับกรอบคิดของชนชั้นอภิสิทธิ์หนึ่ง, เชื้อชาติหนึ่ง และ
เพศสภาวะหนึ่งของสายพันธุ์เดี่ยว.
ในขณะที่ “จิตเชิงเดี่ยว” เข้าครอบงำ,
ความหลากหลายทางชีวภาพสูญหายไปจากไร่นาและระบบอาหารของเรา.
มันเป็นเพราะการทำลายล้างการเพาะปลูกและโภชนาการที่อุดมหลากหลาย
ที่ได้นำพวกเราสู่วิกฤตทุโภชนาการ ขาดสารอาหาร.
The
latest insanity from genetic engineers is to push genetically modified bananas
on India to reduce iron deficiency in Indian women. Seventy-five per cent of
Indian women suffer from iron deficiency.
ความวิกลจริตล่าสุดจากวิศวกรพันธุกรรม
คือ การผลักดันกล้วย จีเอ็ม ใส่อินเดีย (อ้างว่า) เพื่อลดการขาดธาตุเหล็กในหญิงอินเดีย
ซึ่ง 75%
เป็นโรคนี้.
One
rich man named Bill Gates is financing one Australian scientist James Dale who
knows one crop, the banana, to impose inefficient and hazardous GM bananas on
millions of people in India and Uganda.
ยังมีเศรษฐีคนหนึ่ง ชื่อ บิล
เกตส์ ที่ให้ทุนนักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลีย เจมส์ เดล ผู้รู้จักพืชชนิดเดียว, กล้วย,
ให้ยัดเยียดกล้วย จีเอ็ม ที่ไม่มีประสิทธิภาพและอันตราย
ให้กับประชาชนหลายล้านคนในอินเดียและอูกันดา.
The
project is a waste of money, and a waste of time. It will take 10 years and
millions of dollars to complete the research. Meanwhile, governments, research
agencies and scientists will become blind to biodiversity-based low-cost, safe,
time-tested, democratic alternatives that are in the hands of women.
โครงการนี้
เป็นการถลุงเงินและเวลาโดยเปล่าประโยชน์.
มันจะต้องใช้เวลาสัก 10 ปี และเงินหลายล้านดอลลาร์
เพื่อทำงานวิจัยนี้ให้สมบูรณ์.
ในขณะเดียวกัน, รัฐบาล, องค์กรวิจัยและนักวิทยาศาสตร์
ก็จะกลายเป็นคนตาบอดต่อความหลากหลายทางชีวภาพ—ซึ่งมีต้นทุนต่ำ, ปลอดภัย,
เวลาได้พิสูจน์แล้ว, ทางเลือกแบบประชาธิปไตย ที่อยู่ในมือของผู้หญิง.
Indian
women have a wealth of knowledge about biodiversity and nutrition; they
received it over generations, from their mothers and grandmothers. Any woman
will tell you that the solution to malnutrition lies in growing nutrition,
which means growing biodiversity.
ผู้หญิงอินเดียมีความรู้ที่มั่งคั่งเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพ
และ สารอาหาร; เป็นความรู้ที่พวกเธอได้รับจากการถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่น,
จากแม่และยายของพวกเธอ. ผู้หญิงคนไหนก็ได้
จะบอกคุณว่า คำตอบของทุโภชนาการ หรือ ภาวะขาดสารอาหาร ก็คือ การปลูกสารอาหาร,
ซึ่งหมายถึง การปลูกความหลากหลายทางชีวภาพ.
To
remove iron deficiency, iron-rich plants should be grown everywhere — on farms,
in kitchen gardens, in community gardens, in school gardens. Iron deficiency
was not created by nature and we can get rid of it by becoming co-creators and
co-producers with nature.
เพื่อขจัดภาวะขาดธาตุเหล็ก,
พืชที่อุดมธาตุเหล็กควรปลูกไว้ทุกที่—ในไร่นา, ในสวนครัว, ในสวนชุมชน,
ในสวนโรงเรียน.
ภาวะขาดธาตุเหล็กไม่ได้สร้างโดยธรรมชาติ และ เราสามารถกำจัดมันได้ด้วยการร่วมเป็นผู้สร้างและผู้ผลิตกับธรรมชาติ.
But
there is a “creation myth” that is blind to both, nature’s creativity and
biodiversity as well as to women’s creativity, intelligence and knowledge.
According to this “creation myth” of capitalist patriarchy, rich and powerful
men are the “creators”. They can own life through patents and intellectual
property. They can tinker with nature’s complex evolution over millennia and
claim their trivial yet destructive acts of gene manipulation as “creating”
life, food and nutrition.
แต่ก็มี
“เรื่องโกหกของการสร้าง” ที่ตาบอดต่อทั้งสองด้าน,
ความสร้างสรรค์และความหลากหลายทางชีวภาพของธรรมชาติ ตลอดจนถึง ความสร้างสรรค์,
ภูมิปัญญา และ ความรู้ ของผู้หญิง. ตาม
“นิทานโกหกเรื่องการสร้าง” ของระบบปิตา-ทุนธิปไตยนี้, ชายที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพล
เป็น “ผู้สร้าง”. พวกเขาสามารถครอบครองลิขสิทธิ์ชีวิตและสิทธิทางปัญญา.
พวกเขาสามารถแทรกแซงกระบวนการวิวัฒนาการที่ซับซ้อนของธรรมชาติที่ใช้เวลาหลายล้านปี
และ อ้างสิทธิ์จากการกระทำอันน้อยนิดแต่ล้างผลาญ ด้วยการตัดแต่งทางพันธุกรรม
ว่าเป็น “การสร้าง” ชีวิต, อาหาร และ สารอาหาร.
India’s
indigenous biodiversity offers rich sources of iron. For example, amaranth has
11.0 mg iron per 100 gm of food, buckwheat has 15.5, amaranth greens have up to
38.5, karonda 39.1 and lotus stem 60.6.
ความหลากหลายดั้งเดิมของอินเดียเป็นแหล่งอุดมด้วยธาตุเหล็ก. อาทิเช่น amaranth (หงอนไก่?)
มีธาตุเหล็กถึง 11.0 มก/100 กรัม,
ข้าวสาลีบัก มี 15.5, ผักโขม 38.5, karonda 39.1 และ รากบัว 60.6.
Bananas
only have 0.44mg of iron per 100 grams of edible portion. All the effort to
increase iron content of bananas will fall short of the iron content of our
indigenous biodiversity.
กล้วยมีเพียงธาตุเหล็กเพียง 0.44 มก/100 กรัมในส่วนที่กินได้. ความพยายามทั้งหลายในการเพิ่มธาตุเหล็กในกล้วย
ยังไงๆ ก็จะต่ำกว่าที่มีในความหลากหลายดั้งเดิม.
Not
only is the GM banana not the best choice for providing iron in our diet, it
will further threaten biodiversity of bananas and iron-rich crops and introduce
new ecological risks.
ไม่เพียงแต่ กล้วย จีเอ็ม
ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการจัดสรรให้มีธาตุเหล็กในอาหารของเรา, มันยังคุกคามความหลากหลายของกล้วย
และ พืชอื่นๆ ที่มีธาตุเหล็กสูง และ นำความเสี่ยงเชิงนิเวศใหม่เข้ามาอีกด้วย.
If
adopted, the GM banana will be grown as large monocultures, like GM Bt cotton
in the banana plantations of Central America. The government and other agencies
will push this false solution, and our biodiversity of iron-rich foods will
disappear.
หากยอมรับ, กล้วย จีเอ็ม
จะถูกปลูกในฐานะพืชเชิงเดี่ยว, เช่นเดียวกับ ฝ้าย จีเอ็ม บีที ในสวนพาณิชย์กล้วย
ในอเมริกากลาง. รัฐบาลและหน่วยงานอื่นๆ
จะผลักดันคำตอบผิดๆ อันนี้, และ
ความหลากหลายทางชีวภาพของอาหารที่อุดมธาตุเหล็กก็จะสาบสูญไป.
Also,
our native banana varieties will be displaced and contaminated. These include
Nedunendran, Zanzibar, Chengalikodan and the Manjeri Nendran II variety.
แล้ว
พันธุ์กล้วยถิ่นของเราก็จะถูกทดแทนไล่ที่และถูกปนเปื้อน. เช่น Nedunendran, Zanzibar, Chengalikodan และ Manjeri Nendran พันธุ์ II.
The
idea of “nutrient farming” of a few nutrients in monocultures of a few crops is
already being pushed at the policy level. Finance minister P. Chidambaram announced
a `200 core project for “nutri farms” in his 2013 Budget speech.
ความคิดของ “ฟาร์มสารอาหาร”
ของธาตุอาหารบางตัวในพืชเชิงเดี่ยวสองสามชนิด
ได้ถูกผลักดันเข้าถึงระดับนโยบายแล้ว.
รัฐมนตรี พี. จิดามบาราม ได้ประกาศ โครงการแกนหลัก 200 เพื่อสร้าง “ฟาร์มธาตุอาหาร” ในสุนทรพจน์งบประมาณ 2013 ของเขา.
Humans
need a biodiversity of nutrients, including a full range of micronutrients and
trace elements. These come from healthy soils and biodiversity.
มนุษย์จำเป็นต้องมีสารอาหารที่หลากหลาย,
รวมทั้งจุลสารอาหารและเศษแร่ธาตุที่เพียบพร้อม.
สิ่งเหล่านี้ มาจากดินที่แข็งแรงอุดมสมบูรณ์ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ.
There
is a perverse urge among the biotechnology brigade to declare war on
biodiversity in its centre of origin. An attempt was made to introduce Bt
brinjal in India which is the centre of diversity for brinjal. GM corn is being
introduced in Mexico, the centre of diversity of corn. GM banana is being
introduced to the two countries where banana is a significant crop and has
large diversity. One is India, the other is Uganda, the only country where
banana is a staple.
ในบรรดากองทัพน้อยไบโอเทค
มีแรงกระสันวิปลาส ที่จะประกาศสงครามกับความหลากหลายทางชีวภาพ
ซึ่งเป็นศูนย์กลางต้นกำเนิดของมัน.
ความพยายามในการนำ brinjal (กระเจี๊ยบ? มะเขือ?) บีที เข้าสู่อินเดีย
ซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งความหลากหลายของ brinjal. ข้าวโพด จีเอ็ม กำลังถูกนำเข้าสู่เม็กซิโก,
ศูนย์กลางแห่งความหลากหลายทางชีวภาพของข้าวโพด.
กล้วยจีเอ็ม ถูกนำเข้าสู่สองประเทศ
ที่กล้วยเป็นพืชที่มีนัยสำคัญและหลากหลายมหาศาล.
ประเทศหนึ่ง คือ อินเดีย, อีกประเทศ คือ อูกันดา,
ประเทศเดียวที่มีกล้วยเป็นสินค้า/อาหารหลัก.
HarvestPlus
is the corporate alliance pushing “biofortification” — breeding crops to
increase their nutritional value. But experts say that fortification of
nutrients in foods could lead to insurmountable problems: “(it) may deliver
toxic amounts of nutrients to an individual and also cause its associated side
effects (and) the potential that the fortified products will still not be a
solution to nutrient deficiencies amongst low income populations who may not be
able to afford the new product and children who may not be able to consume
adequate amounts thereof”.
HarvestPlus
เป็นพันธมิตรบรรษัท ที่ผลักดัน “การระดมชีวภาพ”—ผสมพันธุ์พืชเพื่อเพิ่มคุณค่าทางสารอาหาร. แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า การระดมสารอาหารในพืชอาหารอาจนำไปสู่ปัญหาที่ยากเกินกว่าจะเอาชนะได้
เช่น “มันอาจให้ปริมาณมากเกินจนเป็นพิษต่อปัจเจก และ ทำให้เกิดผลข้างเคียง และ
เป็นไปได้ว่า ผลผลิตระดมสารนี้
จะยังไม่ใช่คำตอบต่อการขาดแคลนสารอาหารในประชากรที่มีรายได้ต่ำ
ผู้ไม่สามารถซื้อผลิตผลใหม่ และลูกๆ ก็อาจไม่สามารถบริโภคปริมาณมากพอ”.
Australian
scientists are using a virus that infects the banana as a promoter. This could
spread through horizontal gene transfer. All genetic engineering uses genes
from bacteria and viruses. Independent studies have shown that there are health
risks associated with GM foods.
นักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลีย
กำลังใช้ไวรัสให้กล้วยติดเชื้อ เป็นพาหะในการกระตุ้น.
นี่จะสามารถแพร่กระจายผ่านการถ่ายทอดพันธุกรรมในแนวระนาบ. กระบวนการตัดแต่งทางพันธุกรรมทั้งหมด
ใช้พันธุกรรมจากแบคทีเรียและไวรัส.
งานศึกษาอิสระ ได้แสดงให้เห็นว่า มีความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวโยงกับอาหาร
จีเอ็ม.
There
is no need for introducing a hazardous technology in a low-iron food like
banana when we have so many affordable, accessible, safe and diverse options
for meeting our nutritional needs of iron.
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำใช้เทคโนโลยีที่อันตรายในอาหารที่มีธาตุเหล็กต่ำเช่นกล้วย
เมื่อเรามีทางเลือกอื่นมากมาย ที่จ่ายไหว, เข้าถึงได้, ปลอดภัย และ หลากหลาย
เพื่อให้สนองความต้องการสารเหล็กของเรา.
We
have to grow nutrition by increasing biodiversity, not by industrially
“fortifying” nutritionally empty food at high cost, or put one or two nutrients
into genetically-engineered crops.
เราต้องปลูกสารอาหาร
ด้วยการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ, ไม่ใช่ด้วยการ “ระดม” ด้วยกระบวนทางอุตสาหกรรม
ยัดเยียดใส่อาหารที่กลวงสาร ที่ใช้ต้นทุนสูง, หรือ เติมสารอาหารหนึ่งหรือสองตัวใส่พืช
จีเอ็ม.
We
don’t need these irresponsible experiments that create new threats for
biodiversity and our health; we don’t need nutrient solutions imposed by
powerful men sitting in distant places, who are totally ignorant of the biodiversity
in our fields and thalis, and who won’t have to bear the consequences of their
destructive power. We need to put food security in women’s hands so that the
last woman and the last child can share nature’s gifts of biodiversity.
เราไม่จำเป็นต้องมีการทดลองที่ไร้ความรับผิดชอบเหล่านี้
ที่สร้างภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพและสุขภาพของเรา; เราไม่จำเป็นต้องมีคำตอบสารอาหารที่ยัดเยียดโดย
ชายทรงอำนาจที่นั่งอยู่ในที่ไกลโพ้น,
ผู้ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพในไร่นา และ
ในจานอาหารของเรา, และ ผู้ไม่ต้องรับผล/วิบากกรรมจากอำนาจทำลายล้างของกระทำเหล่านี้.
เราจำเป็นต้องวางความมั่นคงทางอาหารใส่ในมือของผู้หญิง เพื่อว่า
ผู้หญิงคนสุดท้าย และ เด็กคนสุดท้าย
จะสามารถแบ่งปันของขวัญแห่งความหลากหลายทางชีวภาพของธรรมชาติได้.
©
2013 The Asian Age
Dr. Vandana Shiva is a philosopher,
environmental activist and eco feminist. She is the founder/director of
Navdanya Research Foundation for Science, Technology, and Ecology. She is
author of numerous books including, Soil Not Oil: Environmental Justice in an
Age of Climate Crisis; Stolen Harvest: The Hijacking of the Global Food Supply;
Earth Democracy: Justice, Sustainability, and Peace; and Staying Alive: Women,
Ecology, and Development. Shiva has also served as an adviser to governments in
India and abroad as well as NGOs, including the International Forum on
Globalization, the Women’s Environment and Development Organization and the
Third World Network. She has received numerous awards, including 1993 Right
Livelihood Award (Alternative Nobel Prize) and the 2010 Sydney Peace Prize.
ดร.วันทนา ศิวะ เป็นนักปราชญ์, นักกิจกรรมสิ่งแวดล้อม, และ นักสตรีนิยมเชิงนิเวศ. เธอก่อตั้ง/ผอ. ของมูลนิธิวิจัย นวธัญญะ
เพื่อวิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, และนิเวศ.
เธอเขียนหนังสือหลายเล่ม “เอาดิน
ไม่เอาน้ำมัน: ความเป็นธรรมด้านสิ่งแวดล้อมในยุควิกฤตทางภูมิอากาศ”, “การเก็บเกี่ยวที่ถูกขโมย: การปล้นแหล่งอาหารโลก”,
“ประชาธิปไตยพิภพ: ความยุติธรรม, ความยั่งยืน และ
สันติภาพ”, และ “ดำรงชีวิตอยู่ให้รอด: ผู้หญิง, นิเวศ,
และการพัฒนา”. เธอได้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลอินเดียและต่างประเทศ
ตลอดจน เอ็นจีโอ เช่น เวทีนานาชาติเรื่องโลกาภิวัตน์, องค์การสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาของผู้หญิง
และ เครือข่ายโลกที่สาม. เธอได้รับรางวัลมากมาย
เช่น รางวัลสัมมาชีพ (หรือ รางวัลโนเบลทางเลือก/คู่ขนาน) ในปี 1993, และ รางวัลสันติภาพซิดนีย์ ปี 2010.
Published
on Wednesday, April 24, 2013 by Asian Age
Alcyon
• 15 hours ago
I
TRULY need to restrain myself from using all the expletives that come flooding
through my mind when I read the subtitle, out of respect for Vandana Shiva's
article! I think she would feel much more outrage on this matter, or she has
learned to channel her outrage in other ways.
GM bananas in India? The insanity is
beyond words! There are some parts of India where people CANNOT ask for just
"bananas" at the local market, but need to specify "WHAT KIND of
banana". The sheer variety of bananas sold in some parts of India could be
mesmerizing! Of course the number of varieties sold in big cities could be far
fewer.
That people even have the audacity to
talk about introducing GM bananas in India shows that criminals have truly
taken over!
The world needs a million more
Vandana Shiva's, and that ain't no hyperbole! The whole thing is turning out to
be an unequal fight. The time to turn the tide is NOW!
Devoff
• 17 hours ago
"Perverse"
is the perfect word for it.
It's twisted that these arrogant
cretins like Gates who know absolutely nothing about agriculture seek to
promote these sick corporate programs, inventing "solutions" to
problems that do not exist. As Shiva points out so succinctly, there is
precisely no shortage of iron rich crops available.
You can see the disease of the
domination ethos when ecosystems and diverse plant communities are suppressed
by toxic chemicals in order to replace them with a single plant, which because
of the resulting soil depletion is not even capable of surviving without
continuous external input. And this is supposed to be the height of human
ingenuity and intelligence! People were farming smarter a thousand years ago.
Ellen
> Devoff • 5 hours ago
It's
not surprising that someone of his background would want to throw insane,
inappropriate "gee-whiz" high technology at a low tech problem (that
doesn't exist). People need to get over this religion of technology. It really
has provided few answers for the world's issues.
Siouxrose
• 17 hours ago
Thank
you, Vandana for this:
"there is a “creation myth” that
is blind to both, nature’s creativity and biodiversity as well as to women’s
creativity, intelligence and knowledge. According to this “creation myth” of
capitalist patriarchy, rich and powerful men are the “creators”. They can own
life through patents and intellectual property. They can tinker with nature’s
complex evolution over millennia and claim their trivial yet destructive acts
of gene manipulation as “creating” life, food and nutrition
This really is the key, and it's part
of the long process that's sought to silence women, subsume their sensibilities
into those of interest to men, and create legal systems that allot to males the
control of women's bodies so they can serve as conduits for children identified
through the lineage of the fathers.
There are significant links between
war, porn, rape culture, and how the Beloved Mother Earth is treated.
On C.D. very few wish to acknolwedge
those links.
artemix
> Siouxrose • 15 hours ago
Hi
Siouxrose--it really is like the myths, Athena out of the head of Zeus. The
patriarchal endgame; women and nature create nothing, things are only valuable
when they come out of corporate male heads. There is nothing these greedy
pr--ks won't try to steal and use as a weapon over others.
Suspiria_de_profundis
> Siouxrose • 16 hours ago
I
agree with your observation but feel once more the need for this system of
patriarchy to advance the notion of private ownership. One can not exist
without the other. They are symbiotes and that ownership is not being applied
only to the natural world which in truth belongs to all of life's species in
COMMOn but over the very bodies and thoughts of others.
This is where the blade has led the
world to
artemix
> Suspiria_de_profundis • 15 hours ago
Patriarchy
begins the system of ownership. Prior communities saw the children as part of
the community Patriarchy has been focused on ownership from the get go which is
why there are so many restrictions on female sexuality. Its all about who owns
the children and there is the beginning of the idea of ownership and dominance.
Patriarchy wants to restrict female sexuality so it can be sure who the
father/owner is.
Siouxrose
> artemix • 14 hours ago
Yes,
I went into the Athena-reference with great depth in Moon Dance; and see the
Change we all hope to see in the archetype of your namesake, she, twin sister
to Apollo, god of the sun and/or the son of god. It is time for the voice of
the Divine Daughter to speak up as a counterbalance to the awful life-negating
voice of the Our Fathers and their bloody habit of perpetual war.
Even
now over the bodies of the dead children, these wounded misfits stroke their
guns...and fiercely defend their right to kill.
I hope to soon upload some tutorials
on this subject (insights into the timeless crux of the "As above, so
below" Divine equation) onto you tube. I just got a decent computer and
will have to get some classes due to my low-tech capabilities!
Siouxrose
> Suspiria_de_profundis • 14 hours ago
I
think Artemix said pretty much what I would have said. I'd like to see
restrictions on ownership as much as I'd like to see wealth caps... after a
certain point, one must distribute back to others and if need be, begin their
game of Monopoly again. I wrote about this in "2020--After The
Transition." (Its copyright goes back to 1990.)
Contrarian
• 16 hours ago
"Monoculture
of the mind" seems an apt description of what the elites have wanted to,
tried to, and with a small percentage of exceptions, succeeded in imposing on
general public consciousness.
Egosophia
• 5 hours ago
I
love Vandana's way, a hero, a champion and goddess of nature and her god/s.
itsthethird
• 15 hours ago
When
70 percent of the worlds best is owned by some 200 fools who desire all the
rest and have created a system of transfer generation upon generation to that
end. Then the world begins to look as sick as the madness of the fools who
shape it.
Suspiria_de_profundis
• 16 hours ago −
Bravo!
You remain the most intelligent and perceptive persons when it comes to the
nature of our food supply.
I provided a link to the science
behind the nutrient value of that GMO corn some here promote.
The stuff is toxic and has less
nutrient value then sawdust.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น