Ten Ways We
Can Build a Better Economic System
สิบหนทาง—พวกเราสามารถสร้างระบบเศรษฐกิจที่ดีกว่าได้
For the
numerous readers who asked: "But what can we do?" after reading
my "10 reasons to
smash capitalism," here are ten ways we can build a better
economic system:
สำหรับผู้อ่านหลายคนที่ถามว่า
“แต่พวกเราจะทำอะไรได้?” หลังจากอ่านบทความของผม
“สิบเหตุผลที่ต้องทุบลัทธิทุนนิยม”
นี่คือ สิบวิธี ที่พวกเราจะสร้างระบบเศรษฐกิจที่ดีกว่าได้
10. We can
elect governments that represent people rather than corporations. This will
require serious electoral reform and include laws to make it clear corporations
are not people and therefore cannot participate in the political process. A
government representing all the people would regulate corporations to ensure
socially responsible behaviour and transform psychopathic capitalist
monstrosities into democratic, social enterprises that benefit all.
๑๐. พวกเราสามารถเลือกตั้งรัฐบาลที่เป็นตัวแทน
(รักษาผลประโยชน์) ของประชาชน แทนที่จะเป็นของบรรษัท. นี่จะต้องมีการปฏิรูปการเลือกตั้งอย่างจริงจัง
และ มีกฎหมายกำหนดชัดเจนว่า บรรษัทไม่ใช่ประชาชน ดังนั้น ไม่สามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการเมืองได้ รัฐบาลใดที่เป็นตัวแทนของประชาชนทั้งหมด
จะควบคุมบรรษัท เพื่อให้แน่ใจว่า จะมีพฤติกรรมที่รับผิดชอบต่อสังคม และ
จะแปรเปลี่ยนสภาพจิตวิปริตของนายทุนวายร้าย ให้เป็น วิสาหกิจเชิงสังคมที่เป็นประชาธิปไตย
และ เป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั้งมวล
9. We can build
communities and organizations that encourage solidarity, compassion and
altruism. These will include worker, consumer, housing and producer
cooperatives, as well as institutions of government. People must always remain
vigilant, especially while capitalism continues to exist, about the pervasive
power of greed to destroy these communities and organizations.
๙. เราสามารถสร้างชุมชนและองค์กรที่ส่งเสริม
ความสามัคคี ความเมตตา กรุณา
ซึ่งรวมคนงาน ผู้บริโภค ที่อยู่อาศัย และ สหกรณ์ผู้ผลิต ตลอดจนสถาบันของภาครัฐ ประชาชนจะต้องจดจ้องจับตา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในขณะที่ลัทธิทุนนิยมยังคงอยู่ ช่วยกันสอดส่องอำนาจของความละโมบทุกแห่งหนที่ทำลายชุมชนและองค์กร
8. We can
promote and build a democratic economy in which social ownership replaces
private ownership of communities’ means of livelihood. The people who work in
them and the communities in which they are located should control economic
enterprises.
๘. พวกเราสามารถส่งเสริมและสร้างเศรษฐกิจประชาธิปไตยที่รับรองว่า
ความเป็นเจ้าของในวิถีชีวิต/การทำมาหากินของชุมชน
เป็นของสังคมส่วนรวม แทนการเป็นสมบัติ/ทรัพย์สินส่วนบุคคล
ประชาชนที่ทำงานในนั้น และ
ชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่ ควรจะเป็นผู้ควบคุมวิสาหกิจเศรษฐกิจต่างๆ
7. Since
authentic freedom for any of us can only come when all of us are free we must
create enterprises, communities, forms of governance and institutions that
respect the rights of everyone and encourage the creativity of all. Socially
useful individual enterprise should be encouraged but everywhere people work
together we must create effective forms of democratic decision-making to
promote creative input from all involved.
๗. เนื่องจากอิสรภาพที่แท้จริงสำหรับพวกเรา
จะมาถึงเราได้ต่อเมื่อพวกเราทั้งหมดมีเสรีภาพ
พวกเราจะต้องสร้างวิสาหกิจ ชุมชน รูปแบบการปกครองและสถาบันที่เคารพสิทธิของทุกคน
และ ส่งเสริมความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์ทั้งปวง
ปัจเจกวิสาหกิจที่มีประโยชน์ต่อสังคมพึงได้รับการส่งเสริมด้วย แต่
ประชาชนทุกหนแห่งพึงทำงานด้วยกัน พวกเราจะต้องสรรสร้างรูปแบบของกระบวนการตัดสินใจที่เป็นประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพ
ที่ส่งเสริมให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ออกความคิดที่สร้างสรรค์
6. Everywhere
we work we can organize in ways that become the building blocks of a new,
democratic economy. Sometimes this will be through existing unions but often we
will create new organizations that defend our day-to-day interests while
self-consciously preparing to replace capitalist minority rule with democratic
social control of all enterprises.
๖. ทุกหนแห่งที่พวกเราทำงาน
เราสามารถจัดรูปองค์กรในลักษณะที่มันจะกลายเป็นอิฐแต่ละก้อนเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย บางที นี่เกิดขึ้นโดยผ่านกระบวนสหภาพ
แต่พวกเรามักสร้างองค์กรใหม่ที่ปกป้องผลประโยชน์ประจำวันของพวกเราเอง
ในขณะเดียวกัน ก็กรุยทางด้วยจิตสำนึกของตนเอง ที่จะแทนที่ระบบการปกครอง
(ที่เป็นอยู่) ในมือของนายทุนกลุ่มน้อย ด้วยระบบการควบคุมทางสังคมที่เป็นประชาธิปไตยต่อวิสาหกิจทั้งปวง
5. We can work
to undermine capitalist, consumerist propaganda whether it masquerades as news,
entertainment or advertising. We can create forms of newsgathering and
information-exchange that challenge capitalism while building the
self-confidence of people everywhere to democratically manage our economy.
Rather than spend countless empty hours consuming mindless advertising-driven
"entertainment," we can relearn the myriad forms of healthy social
interaction that brought joy and solidarity to generations past. Millions of us
can discover the fun in making a better world.
๕.
พวกเราสามารถทำงานเพื่อลดอิทธิพลจากโฆษณาชวนเชื่อบริโภคนิยมของระบบทุนนิยม
ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของข่าว บันเทิง หรือ โฆษณา
พวกเราสามารถสรรสร้างรูปแบบของการเก็บเกี่ยวข่าว และ การแลกเปลี่ยนข้อมูล
ที่ท้าทายทุนนิยม ในเดียวกันก็สร้างความมั่นใจในตัวเองให้เกิดขึ้นในประชาชนทุกๆ
ที่ ให้สามารถร่วมจัดการเศรษฐกิจของเราได้อย่างเป็นประชาธิปไตย แทนที่จะใช้ชั่วโมง/เวลานับไม่ถ้วนให้สิ้นเปลืองไปกับการบริโภค
“ความบันเทิง” ไร้สาระที่ผลักดันด้วยโฆษณา
พวกเราสามารถเรียนรู้ใหม่จากรูปแบบมากมายก่ายกองที่ทำให้เกิดปฏิสัมพัทธ์เชิงสังคมที่แข็งแรง
ที่นำความปิติสุข และ ความสามัคคีให้แก่คนรุ่นก่อนๆ พวกเรานับล้าน
สามารถค้นพบความสนุกสนานในการทำโลกของเราให้ดีกว่านี้ได้
4. We can
rebuild a progressive taxation system in which people with extreme incomes pay
very high levels of taxes. We can promote a one person, one vote system of
decision-making everywhere we work together, whether in the political, social
or economic realm. The means of bringing about such fundamental change may, in
part, come through existing political structures, but will also include diverse
forms of mobilization as workers, residents, concerned citizens, producers and
human beings supporting a healthy planet.
๔.
พวกเราสามารถสร้างระบบเก็บภาษีก้าวหน้าขึ้นใหม่ ซึ่งกำหนดให้คนที่มีรายได้สูงลิ่ว
จ่ายภาษีสูงมากด้วย
พวกเราสามารถจะส่งเสริมให้เกิดระบบการตัดสินใจชนิด หนึ่งคน หนึ่งเสียง
ในทุกๆ ที่ๆ พวกเราทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นวงการทางการเมือง สังคม หรือ
เศรษฐกิจ แนวทางที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระดับรากฐานอาจจะเป็น
ในบางส่วน มาจากโครงสร้างทางการเมืองที่เป็นอยู่.
แต่จะครอบคลุมรูปแบบหลากหลายของการขับเคลื่อน เช่น คนทำงาน ชาวบ้าน
พลเมืองที่มีความห่วงใย ผู้ผลิต
และ มนุษย์ที่สนับสนุนให้โลกแข็งแรง
3. We can speak
up for our planet as one community with intertwined interests that can only be
satisfied through mutual respect and cooperation. We can learn from indigenous
communities to respect the earth. We can act on the principle that an injury to
one anywhere and everywhere is an injury to all. At a minimum this requires an
end to war and environmental destruction of every sort. We can work together in
enterprises and organizations that exist in local communities, but which also
connect with like-minded regional, national and international groups to
accomplish the changes we need.
๓. พวกเราสามารถจะพูดส่งเสียง เพื่อปกป้องโลกของเรา
ในฐานะที่เป็นชุมชนหนึ่งเดียวที่มีความสนใจ/ผลประโยชน์พันพัวกัน
ซึ่งสามารถจะบรรลุได้ด้วยวิธีให้ความเคารพกันและกัน และร่วมมือกัน
พวกเราสามารถจะเรียนรู้จากชุมชนพื้นเมืองดั้งเดิม
เพื่อแสดงความเคารพต่อโลก/พระแม่ธรณี พวกเราสามารถปฏิบัติการด้วยหลักการที่ว่า
การทำร้ายคนหนึ่งไม่ว่าที่ไหน เป็นการทำร้ายทุกๆ คนด้วย อย่างน้อยที่สุด นี่จะต้องยุติการทำสงครามและทำลายล้างทุกประเภทต่อ สิ่งแวดล้อม
พวกเราสามารถทำงานร่วมกันในวิสาหกิจและองค์กรที่มีอยู่แล้วในชุมชนท้องถิ่น
แต่ต้องเป็นพวกที่เชื่อมต่อกับกลุ่มต่างๆ ที่มีความคิด/วิถีจิตในแนวเดียวกันกับพวกเรา
ในระดับภูมิภาค ประเทศ และ ระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เราต้องการ
2. Through our
words and actions we can demonstrate that the realistic alternative to
capitalism is an expansion of democracy. In order to build the peaceful,
ecologically sane world we desire, our tactics are non-violent, but we
understand that people under attack have a right to self-defence.
๒. ด้วยคำพูดและปฏิบัติการของพวกเรา
เราสามารถแสดงให้เห็นว่า ทางเลือกที่เป็นจริงต่างจากทุนนิยมนั้น คือ
การขยายพื้นที่ของประชาธิปไตย
เพื่อสร้างโลกที่มีสันติ และมีจิตปกติเชิงนิเวศ ดังที่พวกเราปรารถนา กลยุทธ์ของเรา คือ อหิงสา แต่พวกเราก็เข้าใจด้วยว่า คนที่ถูกคุกคามทำร้าย
ก็มีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเองด้วย
1. We can replace
capitalism with a system based on social ownership, equal human entitlement and
workplace democracy. Building an economic democracy is the key to human
survival. We can exist in harmony with our environment if we get rid of
capitalism and promote respect for nature and understanding the interdependence
of all forms of life.
๑. พวกเราสามารถจะแทนที่ทุนนิยมได้ด้วยระบบที่ตั้งอยู่บนฐานความเป็นเจ้าของเชิงสังคม
ความพึงมีพึงได้ที่เท่าเทียมกันในฐานะมนุษย์เหมือนกัน และ
ประชาธิปไตยในสถานที่ทำงาน
การสร้างระบบประชาธิปไตยเศรษฐกิจ เป็นกุญแจสู่ทางรอดของมนุษยชาติ
พวกเราสามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยความกลมเกลียวกับสิ่งแวดล้อมของเรา
หากเราขจัดลัทธิทุนนิยม และ ส่งเสริมให้เคารพธรรมชาติ และ
เข้าใจความเชื่อมโยงข้องเกี่ยวต่อเนื่องกันของชีวิตทุกรูปแบบ
This work is licensed
under a Creative Commons Attribution-Share Alike 3.0 License.
Gary Engler, vice-president of CEP Local 2000, is a
delegate at this weekend’s Toronto founding convention of Unifor. He is also a
co-author The New Commune-ist Manifesto — Workers of the World It Really
is Time to Unite (www.newcommuneist.com) about the future of unions and the left.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น